วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

รับโบนัส 25% ทุกครั้ง โบรกเกอร์สำหรับคนทุนน้อย ด้วย Leverage 1:1000

ตั้งแต่ 27 พย.นี้ รับโบนัส 25% ทุกครั้งที่ฝากเข้า (สามารถสมัครใหม่ได้)

แนะนำโบรกเกอร์สัญชาติรัสเซีย ที่เหมาะสำหรับคนทุนน้อยบริษัท Exness
ข้อดีเท่าที่ทดลองใช้งานคือ

1. สมัครง่าย ไม่ต้องใช้เอกสารดูรายละเอียดและทดลองใช้งานหรือสมัครได้ที่ https://www.exness.com/a/18072. ใช้ MT4 ด้วยจุดทศนิยม 5 จุด ทำให้เทรดได้ละเอียดกว่าโบรกเกอร์ทั่วไป
3. ตั้งเป้าได้ที่ระยะห่างจากจุดปัจจุบันไม่จำกัด (บางโบรกจำกัดที่ต้องเกิน 10 จุด)
4. สเปรดต่ำ (1 จุด ขึ้นไป สำหรับ อียู) และลอยตัวตามสภาวะตลาด เหมือนระบบ ECN ทำให้คนที่เทรดสั้นได้สะดวกมากขึ้น
3. Leverage 1:1000 ทำให้ใช้ทุนน้อยมากเช่น เทรดจุดละ 1 ดอล ใช้ทุนประมาณ 15 ดอล เท่านั้นขณะที่โบรก อื่นๆ ใช้ทุนประมาณ 30 ดอล ที่ Leverage 1:5004. เทรดขั้นต่ำได้ที่ 0.01 ลอต หรือจุดละ 0.1 ดอลสัดส่วนการเทรดเหมือนกับบัญชีดอลเช่น 0.1 ลอต คือ จุดละ 1 ดอล
5. ฝากขั้นต่ครั้งแรกเพียง 10 ดอล
6. รับโบนัส 25 % ทุกครั้งที่ฝาก เมื่อเริ่มสมัครตั้งแต่ 27 พย.นี้เป็นต้นไป (คนที่สมัครไปแล้วสามารถสมัครใหม่ได้ โดยใช้อีเมลใหม่)
7. ถอนไวมาก LR และ WMZ ถอนได้ทันที real time ไม่ต้องรอข้ามวันเหมือนที่อื่น โดยถอนได้ตลอดเวลา ไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่
ทดลองสมัครและใช้งานได้ที่ https://www.exness.com/a/1807

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

World Markets 26 พย.: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงหนักสุดในรอบ 8 เดือนเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) หลังจากมีรายงานว่าบริษัท ดูไบ เวิลด์ ของรัฐบาลดูไบ มีแผนเลื่อนการชำระหนี้จำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการผิดนัดชำระหนี้ครั้งใหญ่สุดในรอบ 8 ปี ขณะที่มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของดูไบ เวิลด์ ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ดิ่งลง 170.68 จุด ปิดที่ 5,194.13 จุด
*หมายเหตุ: ตลาดหุ้นนิวยอร์ก, ตลาดน้ำมัน NYMEX, ตลาดทองคำนิวยอร์ก และตลาดเงินนิวยอร์กปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 26 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

World Markets 25 พย: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี ยอดขายบ้านใหม่ที่ปรับตัวสูงขึ้น และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยกระตุ้นภาวะการซื้อขายให้คึกคักขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 30.69 จุด หรือ 0.29% แตะที่ 10,464.40 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 4.98 จุด หรือ 0.45% ปิดที่ 1,110.63 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 6.87 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 2,176.05 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดของสหรัฐ นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาดของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 1.94 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.96 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 77.90-77.48 ดอลลาร์
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) และทำสถิติปิดบวกติดต่อกันยาวนานที่สุดในรอบ 27 ปี เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลง และจากข่าวที่ว่าธนาคารกลางอินเดียอาจซื้อทองคำจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพิ่มขึ้นอีก สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,187.00 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 21.20 ดอลลาร์ เคลื่อนตัวในช่วง 1,166.80-1,189.40 ดอลลาร์
-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้แสดงความวิตกกังวลต่อสกุลเงินดอลลาร์ที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ พร้อมกับยืนยันว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนแห่ซื้อสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า รวมถึงยูโรและดอลลาร์ออสเตรเลีย
ดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 1.19% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.5138 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.4960 ยูโร/ดอลลาร์และดิ่งลง 1.40% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 87.320 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 88.560 เยน/ดอลลาร์ นอกจากนี้ ดอลลาร์ร่วงลง 1.27% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9962 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.0090 ฟรังค์/ดอลลาร์ และดีดขึ้น 0.84% เมื่อเทียบกับปอนด์ที่ 1.6713 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6573 ปอนด์/ดอลลาร์
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) หลังจากทางการอังกฤษรายงานว่าตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 หดตัวน้อยลง นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและยอดขายบ้านของสหรัฐที่เพิ่มขึ้น และตัวเลขว่างงานประจำสัปดาห์ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 40.85 จุด หรือ 0.8% แตะที่ 5,364.81 จุด

วิเคราะห์เทคนิค EUR/USD 26 พย.


Pivot: 1.5060
คำแนะนำ : Long เหนือราคา 1.506 targets @ 1.516 & 1.5205
หากราคาต่ำกว่า 1.506 เป้าหมายคือ 1.5017 & 1.4990
ข้อสังเกต: RSI ทิศทางข้น
Key levels
1.5280
1.5205
1.5160
1.5135 last
1.5060
1.5017
1.4990

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก 26 พย.: ดาวโจนส์ปิดบวก 30.69 จุด หลังสหรัฐเผยข้อมูลเศรษฐกิจสดใส

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี ยอดขายบ้านใหม่ที่ปรับตัวสูงขึ้น และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยกระตุ้นภาวะการซื้อขายให้คึกคักขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 30.69 จุด หรือ 0.29% แตะที่ 10,464.40 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 4.98 จุด หรือ 0.45% ปิดที่ 1,110.63 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 6.87 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 2,176.05 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 795 ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 1.41 พันล้านหุ้น
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานลดลง 35,000 รายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เหลือเพียง 466,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว ทั้งนี้ แม้ตัวเลขว่างงานที่ลดลงบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานในสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น แต่นักวิเคราะห์บางคนมองว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว เนื่องจากอัตราว่างงานในเดือนต.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 10.2% และคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกจนถึงต้นปีหน้า
ขณะเดียวกันสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 6.2% แตะระดับ 430,000 ยูนิต/ปี มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.8% แตะที่ 405,000 ยูนิต/ปี
นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนต.ค.ที่ดีดตัวขึ้น 0.7% ทำสถิติเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 3 เดือน หลังจากร่วงลง 0.6% ในเดือนก.ย. โดยตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคดีดตัวขึ้นหลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศใช้โครงการนำรถยนต์เก่าแลกรถใหม่ ซึ่งช่วยให้ชาวอเมริกันมีกำลังซื้อมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปิดบวกไม่มากนักเนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้นั้นค่อนข้างผันผวน โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค.ดิ่งลง 0.6% ทำสถิติลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5%
นักวิเคราะห์หลายคนในย่านวอลล์สตรีทแสดงความเห็นว่า ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กผันผวนและถอยร่นลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวันก็เพราะนักลงทุนยังคงไม่เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 10.2% ในขณะนี้
กระแสความวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้นเมื่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมายอมรับว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ของเฟดอาจก่อให้เกิดการเก็งกำไรที่รุนแรงในตลาดการเงิน และอาจขัดขวางเป้าหมายเงินเฟ้อต่ำของเฟด อย่างไรก็ตาม เฟดได้ปรับลดคาดการณ์อัตราว่างงานในปี 2553 และ 2554 ดดยคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงสู่ช่วง 9.3 - 9.7% ซึ่งลดลงจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 9.5 - 9.8%
สกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนราคาหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น ส่วนหุ้นกลุ่มค้าปลีกพุ่งขึ้นหลังจากบริษัท ทิฟฟานี แอนด์ โค เปิดเผยกำไรไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นเกินคาด โดยหุ้นทิฟฟานีปิดพุ่ง 4.9% หุ้นแซคส์ ปิดบวก 5.2% หุ้นนอร์ดสตร็อมปิดพุ่ง 3.4%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 26 พ.ย.เนื่องในวัน Thanksgiving (วันขอบคุณพระเจ้า) และจะเปิดทำการเพียงครึ่งวันในวันศุกร์ที่ 27 พ.ย.นี้

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

วิเคราะห์เทคนิค EUR/USD 25 พย.

Pivot: 1.5000
คำแนะนำ: Short ที่ราคาต่ำกว่า 1.5000 targets @ 1.492 & 1.489
หากราคาผ่านเหนือ1.5000 เป้าหมายคือ 1.5020 & 1.5050

ข้อสังเกต: แรงขาขึ้นติดอยู่ที่แนวต้าน 1.5000

Key levels
1.5050
1.5020
1.5000
1.4962 last
1.4920
1.4890
1.4850

World Markets 24 พย.: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ตลาดติดลบไม่มากนักหลังจากสหรัฐเปิดเผยราคาบ้านใน 20 เขตเมืองที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มในภาคอสังหาริมทรัพย์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 17.24 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 10,433.71 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.59 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 1,105.65 จุด และดัชนี Nasdaq รูดลง 6.83 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 2,169.18 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กดิ่งลงเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจและดีมานด์พลังงานในสหรัฐ นอกจากนี้ การที่ค่าเงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงด้วย สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 1.54 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.02 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 76.45-76.45 ดอลลาร์
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กยังคงปิดบวกอย่างต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรและเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในยามที่เศรษฐกิจยังผันผวน โดยสัญญาทองคำยังคงปิดบวกได้แม้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ซึ่งฉุดราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆร่วงลงด้วยก็ตาม
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,165.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,157.70-1,171.70 ดอลลาร์
-- ดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐกระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกรายงานบ่งชี้ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่งเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.03% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4960 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4965 ยูโร/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้น 0.22% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6572 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6609 ปอนด์/ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.44% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 88.560 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 88.950 เยน/ดอลลาร์ และรูดลง 0.04% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0090 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0094 ฟรังค์/ดอลลาร์
-- FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐประมาณการตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ลดลงจากการประมาณการครั้งก่อน ซึ่งส่งผลให้เกิดแรงเทขายในหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเหมืองแร่ในตลาดหุ้นลอนดอน
ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 31.54 จุด แตะที่ 5,323.96 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,309.13-5,374.89 จุด

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 132.79 จุด หลังยอดขายบ้านมือสองสหรัฐพุ่งเกินคาด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (23 พ.ย.) ขานรับยอดขายบ้านมือสองที่พุ่งขึ้นเกินคาดของสหรัฐ นอกจากนี้ การอ่อนตัวลงของสกุลเงินดอลลาร์ยังช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขจีดีพีและตัวเลขว่างงานประจำสัปดาห์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 132.79 จุด หรือ 1.29% ปิดที่ 10,450.95 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 14.86 จุด หรือ 1.36% ปิดที่ 1,106.24 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 29.97 จุด หรือ 1.40% ปิดที่ 2,176.01 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 980 ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 1.86 พันล้านหุ้น
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กคึกคักขึ้นหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 10.1% แตะระดับ 6.10 ล้านยูนิตต่อปี มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.3% จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 5.54 ล้านยูนิตต่อปี โดยยอดขายเดือนต.ค.ถือเป็นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปี 2550
ไมเคิล โมแรน นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ไดวา ซีเคียวริตี้ อเมริกา อิงค์ในนิวยอร์กกล่าวราคาบ้านที่ถูกลง ประกอบกับมาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ด้วยนโยบายลดหย่อนภาษี 8 พันดอลลาร์สำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรกซึ่งประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้ขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 30 เม.ย.จากก่อนหน้านี้ที่จะครบกำหนดหมดอายุในสิ้นเดือนนี้ ได้ช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เผชิญภาวะซบเซา อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวในตลาดอสังหาริมทรัพย์จะช่วยหนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจได้มากหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับตัวเลขจ้างงานและอัตราการยึดบ้านหลุดจำนอง
การพุ่งขึ้นของยอดขายบ้านมือสองช่วยหนุนหุ้นกลุ่มก่อสร้างบ้านทะยานขึ้นด้วย โดยหุ้นดี.อาร์. ฮอร์ตันพุ่งขึ้น 2.8% และหุ้นเอ็มดีซี โฮลดิงส์ อิงค์ทะยานขึ้น 1.1%
นอกจากนี้ การร่วงลงของสกุลเงินดอลลาร์ได้ช่วยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงน้ำมันดิบและทองคำทะยานขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่พยุงหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ทะยานขึ้นด้วย โดยราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ดีดขึ้น 9 เซนต์ แตะที่ 77.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งช่วยหนุนหุ้นเชฟรอน คอร์ป ปิดพุ่ง 2.6% หุ้นวีเยอร์ฮอเซอร์ โค ปิดบวก 3.3%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญสหรัฐในสัปดาห์นี้ วันอังคาร กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของจีดีพีประจำไตรมาส 3 ขณะที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์จะเปิดเผยราคาบ้านเดือนก.ย. และสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนพ.ย.
วันพุธ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยตัวเลขรายได้และการบริโภคส่วนบุคคลเดือนต.ค. รวมทั้งยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค. ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และมหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย. นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค.
ส่วนวันพฤหัสบดี ตลาดหุ้น ตลาดการเงิน และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐจะปิดทำการเนื่องในวัน Thanksgiving (วันขอบคุณพระเจ้า) และวันศุกร์ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจากหน่วยงานของรัฐ

วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

World Markets20 พย.: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดอ่อนตัวลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 พ.ย.) เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างเดลล์และบริษัทรับสร้างบ้านอย่างดี.อาร์. ฮอร์ตัน อิงค์ รายงานตัวเลขรายได้ที่อ่อนตัวลง รวมทั้งการธนาคารกลางยุโรปประกาศว่าจะถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป
สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดอ่อนตัวลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 พ.ย.) หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนตัวและเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ส่งผลให้ความต้องการลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.อ่อนตัวลง 74 เซนต์ ปิดที่ 76.72ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 77.06-79.87 ดอลลาร์ โดยสัญญาเดือนธ.ค.จะครบกำหนดส่งมอบในวันศุกร์
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กยังคงปิดบวกต่อเนื่องเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 พ.ย.) แม้ว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้น ขณะนักลงทุนกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความยั่งยืนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,146.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.90 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,132.50 - 1,148.50 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 พ.ย.) หลังจากนักลงทุนเทขายหุ้นและหันเข้าซื้อดอลลาร์เพื่อลดความเสี่ยงก่อนที่จะถึงช่วงสิ้นปี
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.39% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4860 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4918 ยูโร/ดอลลาร์ และอ่อนค่าลง 0.41% แตะที่ 1.0174 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0132 ฟรังค์/ดอลลาร์
นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.94% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6502 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.6658 ปอนด์/ดอลลาร์ และแข็งค่าขึ้น 0.07% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 88.970 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 89.030 เยนต่อดอลลาร์
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดอ่อนตัวลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 พ.ย.) หลังจากที่มอร์แกนสแตนลีย์ได้ลดอันดับหุ้นโทมัส คุค กรุ๊ป และ Tui Travel ประกอบการนักลงทุนวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่อาจจะสะดุดลง บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 อ่อนตัวลง 16.29 จุด หรือ 0.3% ปิดที่ 5,251.41 จุด

วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

แนะนำโบรกเกอร์สำหรับคนทุนน้อย ด้วย Leverage 1:1000

แนะนำโบรกเกอร์สัญชาติรัสเซีย ที่เหมาะสำหรับคนทุนน้อย
บริษัท Exness
ข้อดีเท่าที่ทดลองใช้งานคือ
1. สมัครง่าย ไม่ต้องใช้เอกสารดูรายละเอียดและทดลองใช้งานหรือสมัครได้ที่ https://www.exness.com/a/1807
2. ใช้ MT4 ด้วยจุดทศนิยม 5 จุด ทำให้เทรดได้ละเอียดกว่าโบรกเกอร์ทั่วไป
3. ตั้งเป้าได้ที่ระยะห่างจากจุดปัจจุบันไม่จำกัด (บางโบรกจำกัดที่ต้องเกิน 10 จุด)
4. สเปรดต่ำ (1 จุด ขึ้นไป สำหรับ อียู) และลอยตัวตามสภาวะตลาด เหมือนระบบ ECN ทำให้คนที่เทรดสั้นได้สะดวกมากขึ้น
3. Leverage 1:1000 ทำให้ใช้ทุนน้อยมาก
เช่น เทรดจุดละ 1 ดอล ใช้ทุนประมาณ 15 ดอล เท่านั้น
ขณะที่โบรก อื่นๆ ใช้ทุนประมาณ 30 ดอล ที่ Leverage 1:500
4. เทรดขั้นต่ำได้ที่ 0.01 ลอต หรือจุดละ 0.1 ดอลสัดส่วนการเทรดเหมือนกับบัญชีดอล
เช่น 0.1 ลอต คือ จุดละ 1 ดอล
5. ฝากขั้นต่ครั้งแรกเพียง 10 ดอล
6. รับโบนัส 15 % ทุกครั้งที่ฝาก (โบนัสจะถอนออกไม่ได้ ใช้สำหรับเทรดเท่านั้น)
7. ถอนไวมาก LR และ WMZ แทบจะ real time ไม่ต้องรอข้ามวัน เท่าที่ทดลองใช้เวลา 10 นาที - 1 ชม. โดยถอนได้ตลอดเวลา ไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่ทำงานเหมือนที่อื่นๆ ข้ามวัน
หากติดขัดก็สามารถเข้าไปแจ้งที่ live support ให้ดำเนินการได้ทันที

ทดลองสมัครและใช้งานได้ที่ https://www.exness.com/a/1807

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

วิเคราะห์เทคนิค EUR/USD 20 พย.

Pivot: 1.493
คำแนะนำ: Short ที่ราคาต่ำกว่า 1.4930 targets @ 1.4840 & 1.4810
หากราคาผ่าน 1.4930 เป้าหมายคือ 1.498 & 1.5017

ข้อสังเกต: ราคากำลังทดสอบแนวรับ, RSI กำลังจะลง

Key levels
1.5017
1.4980
1.4930
1.4914 last
1.4840
1.4810
1.4750

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก19 พย.: ดอลล์พุ่งเทียบสกุลเงินหลักๆ หลังข้อมูลศก.อ่อนแอหนุนนลท.แห่ซื้อดอลล์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา รวมถึงดัชนีชี้นำเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาดและยอดการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านร่วงลงหนักสุดในรอบ 12 ปี ซึ่งกระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในยามที่เศรษฐกิจยังเปราะบาง
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.32% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4916 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.4964 ยูโร/ดอลลาร์ และดีดขึ้น 0.38% แตะที่ 1.0133 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0095 ฟรังค์/ดอลลาร์
นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้น 0.51% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6657 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.6743 ปอนด์/ดอลลาร์ แต่ดอลลาร์ร่วงลง 0.40% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 89.010 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 89.370 เยนต่อดอลลาร์ ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 1.12% แตะที่ 0.9190 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันพุธที่ 0.9294 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 1.98% แตะที่ 0.7311 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7459 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
เดวิด กิลมอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Foreign Exchange Analytics ในรัฐคอนเน็กติกัตของสหรัฐกล่าวกับเอพีว่า "นักลงทุนเริ่มขาดความเชื่อมั่นเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ จึงเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หลังจากมีข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า รวมถึงข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ"
สมาคมธนาคารเพื่อการจำนองของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านในรอบสัปดาห์ที่แล้วดิ่งลงสู่จุดต่ำสุดในรอบ 12 ปี แม้อัตราดอกเบี้ยจำนองระยะ 30 ปีร่วงลงสู่จุดต่ำสุดในรอบ 6 เดือนก็ตาม ขณะที่ตัวเลขการสร้างบ้านเดือนต.ค.ของสหรัฐร่วงลง 10.6% แตะที่ 529,000 ยูนิต/ปี สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.7%
สำนักงานคอนเฟอเรอนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% แตะที่ 103.8 จุด ซึ่งแม้ว่าเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2550 แต่ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นต่อภาคการธนาคารของสหรัฐ หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ออกแถลงการณ์ทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ของธนาคารพาณิชย์ทั่วโลก โดยมูดีส์อาจปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ด้อยสิทธิและตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน (hybrid) จำนวน 775 รายการที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ 170 แห่ง ใน 36 ประเทศทั่วโลก คิดเป็นมูลค่ารวมกัน ราว 4.50 แสนล้านดอลลาร์ รวมถึงตราสารหนี้ที่ออกโดยโกลด์แมน แซคส์, ซิตี้กรุ๊ป และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค
องค์การความร่วมมือและการพัฒนาเศรษฐกิจ (โออีซีดี) ออกรายงานคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางที่สำคัญของโลก รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะยังไม่ปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยจนถึงช่วงปลายปี 2553
ขณะที่ซิตี้กรุ๊ป โกลบอล มาร์เก็ตส์ เจแปน อิงค์ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะยังตกอยู่ในภาวะเงินฝืด ซึ่งจะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภท 10 ปีดิ่งลงแตะระดับ 1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

วิเคราะห์เทคนิค EUR/USD 19 พย.

Pivot: 1.4925
คำแนะนำ: Short ต่ำกว่า 1.4925 เป้าหมาย @ 1.4810 & 1.4750
หากผ่านเหนือ 1.4925 จะไปที่เป้าหมายด้านบน 1.5000 & 1.5050
ข้อสังเกต: ราคายังอยู่ในกรอบขาลง bearish channel และน่าจะลงไปที่แนวรับถัดไป

Key levels
1.5050
1.5000
1.4925
1.4868 last
1.4810
1.4750
1.4700

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก 18 พย.: ดอลล์ร่วง หลังผู้ว่าการ FED ส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยต่ำถึงปี 55

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) หลังจากนายเจมส์ บุลลาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ส่งสัญญาณว่าคณะกรรมการเฟดจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงปี 2555 ซึ่งการส่งสัญญาณดังกล่าวทำให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำจะส่งผลให้สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีมูลค่าน้อยลง
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.67% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4966 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.4867 ยูโร/ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.66% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0094 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0161 ฟรังค์/ดอลลาร์
นอกจากนี้ ดอลลาร์ร่วงลง 0.40% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6745 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.6813 ปอนด์/ดอลลาร์ แต่กระเตื้องขึ้น 0.04% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 89.360 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 89.320 เยน/ดอลลาร์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดีดตัวขึ้น 0.12% แตะที่ 0.9296 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันอังคารที่ 0.9307 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.12% แตะที่ 0.7464 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7455 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
ไบรอัน คิม นักยุทธศาสตร์การลงทุนด้านปริวรรตเงินตราจากธนาคาร UBS AG ในเมืองสแตมฟอร์ด กล่าวกับเอพีว่า "นักลงทุนกระหน่ำขายดอลลาร์หลังจากนายบุลลาร์ดกล่าวว่าคกรรมการเฟดอาจจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงปี 2555 ซึ่งหมายความว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ของสหรัฐจะยืนอยู่ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25% ต่อไปจนถึงปีดังกล่าว ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเช่นนี้ทำให้เกิดความกังวลว่าจะทำให้มูลค่าสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์อ่อนแอลงด้วย"
อัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ของสหรัฐกำลังทำให้เกิดกระแสการระดมทุนทั่วโลกในรูปของการทำ carry trade หรือการกู้ยืมเงินดอลลาร์มาซื้อสินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง ขณะที่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าการที่นักลงทุนแห่ซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยที่ระดับใกล้ 0% นั้น อาจทำให้ปัจจัยพื้นฐานตลาดปริวรรตเงินตราถูกบิดเบือนไป
ด้านนายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) และนายหลิว หมิงกัง ผู้อำนวยการฝ่ายกำหนดนโยบายด้านการธนาคารของจีน มีความเห็นที่สอดคล้องกันว่า นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำของเฟดกำลังส่งผลให้เกิดการเก็งกำไรในรูปการทำอาร์บิทราจสกุลเงินดอลลาร์ (หรือการหากำไรจากการซื้อขายในเวลาเดียวกัน แต่ต่างตลาดกัน) และทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อด้านสินทรัพย์ ซึ่งผลที่ตามมาคือการขัดขวางกระบวนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโกค (CPI) เดือนต.ค.พุ่งขึ้น 0.3% มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะขยับขึ้น 0.2% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.2% มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.1%

World Markets 18 พย.: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเผยตัวเลขการสร้างบ้านที่ลดลงสวนทางกับการคาดการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากบริษัทเทคโนโลยีที่ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์รูดลง 11.11 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 10,426.31 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับลง 0.52 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 1,109.80 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 10.64 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 2,193.14 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) หลังจากสหรัฐรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ร่วงลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง และสมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งสหรัฐ (AAA) คาดการณ์ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่จะนำรถยนต์ออกไปขับขี่บนทางหลวงจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงวันหยุดสัปดาห์หน้า เนื่องในวัน Thanksgiving (วันขอบคุณพระเจ้า)
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ดีดขึ้น 44 เซนต์ ปิดที่ 79.58 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 78.67-80.33 ดอลลาร์ ซึ่งสัญญาน้ำมันดิบเดือนธ.ค.จะครบกำหนดส่งมอบในวันศุกร์นี้
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) โดยในระหว่างวันสัญญาทองคำทะยานขึ้นเหนือระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,150 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,141.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.80 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,136-1,153.40 ดอลลาร์
-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) หลังจากนายเจมส์ บุลลาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ส่งสัญญาณว่าคณะกรรมการเฟดจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงปี 2555 ซึ่งการส่งสัญญาณดังกล่าวทำให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำจะส่งผลให้สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีมูลค่าน้อยลง
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.67% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4966 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.4867 ยูโร/ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.66% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0094 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0161 ฟรังค์/ดอลลาร์ นอกจากนี้ ดอลลาร์ร่วงลง 0.40% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6745 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.6813 ปอนด์/ดอลลาร์ แต่กระเตื้องขึ้น 0.04% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 89.360 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 89.320 เยน/ดอลลาร์
-- ดัชนี FTSE 100 ปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสร้างบ้านที่ร่วงลงสวนทางกับการคาดการณ์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงด้วย ดัชนี FTSE 100 ขยับลง 3.80 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 5,342.13 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,331.64-5,372.10 จุด

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

World Markets 17พย.: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

_
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกล่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาน้ำมันดิบและราคาโลหะปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์บวกเพียงเล็กน้อยและภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากสหรัฐเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด และบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ รวมถึง โฮมดีโปท์ ปรับลดคาดการณ์ยอดขายช่วงปลายปี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 30.46 จุด หรือ 0.29% แตะที่ 10,437.42 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 1.02 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 1,110.32 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 5.93 จุด หรือ 0.27% แตะที่ 2,203.78 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค. ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธ และติดตามความเคลื่อนไหวของพายุเฮอร์ริเคน"ไอด้า" สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดตลาดที่ 79.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 2.65 เซนต์ ปิดที่ 2.0585 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.81 เซนต์ ปิดที่ 2.0049 ดอลลาร์/แกลลอน
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าจะมีธนาคารกลางอีกหลายประเทศที่เข้าซื้อทองคำมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง หลังจากธนาคารกลางมอริเชียสและอินเดียได้เข้าซื้อทองคำจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐส่งผลให้สัญญาทองคำปิดบวกเพียงเล็กน้อย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,139.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 20.00 เซนต์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,127.80-1,142.00 ดอลลาร์
-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆของโลก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ร่วมสนับสนุนนโยบายดอลลาร์แข็งค่าเช่นเดียวกับนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.69% เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรที่ 1.4867 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4971 ยูโร/ดอลลาร์ และดีดตัวขึ้น 0.19% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 89.280 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 89.110 เยน/ดอลลาร์
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) หลังจากทางการอังกฤษเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค.พุ่งขึ้นเกินคาด และเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญความเสี่ยง ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 36.74 จุด ปิดที่ 5,345.93 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,337.01-5,382.67 จุด

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

วิเคราะห์เทคนิค EUR/USD 17 พย.



Pivot: 1.502
คำแนะนำ : Short positions ต่ำกว่า 1.502 targets @ 1.4880 & 1.4825
ถ้าทะลุเหนือ 1.502 เป้าหมายคือ1.5050 & 1.5115
ข้อสังเกต : ราคาได้ทะลุต่ำกว่า channel support.
หากราคาผ่านแนวรับ 1.4880 จะทำให้เป็นขาลง
Key levels
1.5115
1.5050
1.5020
1.4975
last 1.4880
1.4825
1.4740

World Markets16 พย.: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากยอดค้าปลีกประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาด รวมทั้งการอ่อนตัวลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้นด้วย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 136.49 จุด หรือ 1.33% ปิดที่ 10,406.96 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 15.82 จุด หรือ 1.45% ปิดที่ 1,109.30 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 29.97 จุด หรือ 1.38% ปิดที่ 2,197.85 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และข้อมูลเศรษฐกิจอันแข็งแกร่งที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมถึงยอดค้าปลีกของสหรัฐและตัวเลขจีดีพีญี่ปุ่น นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นด้วย บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 2.55 ดอลลาร์ หรือ 3.34% ปิดที่ 78.90 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 79.34-78.63 ดอลลาร์
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นแข็งแกร่งกว่า 22 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่งเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,139.20 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 22.50 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,119.50-1,143.40 ดอลลาร์
-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆของโลก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายสกุลเงินดอลลาร์เพราะไม่มั่นใจในท่าทีของเบอร์นันเก้ที่กล่าวสนับสนุนนโยบายดอลลาร์แข็งค่า
บลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.40% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4974 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.4914 ยูโร/ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.72% เมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 89.060 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 89.710 เยน/ดอลลาร์
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนเมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาโลหะในตลาดโลกทะยานขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจแข็งแกร่งของสหรัฐและญี่ปุ่น รวมทั้งมติที่ประชุมกลุ่มความร่วมมือเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่ให้คงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 86.29 จุด หรือ 1.63% ปิดที่ 5,382.67 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,296.38-5,396.96 จุด

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

แนะนำโบรกเกอร์สำหรับคนทุนน้อย ด้วย Leverage 1:1000

แนะนำโบรกเกอร์สัญชาติรัสเซีย ที่เหมาะสำหรับคนทุนน้อย
บริษัท Exness

ข้อดีเท่าที่ทดลองใช้งานคือ
1. สมัครง่าย ไม่ต้องใช้เอกสาร
ดูรายละเอียดและทดลองใช้งานหรือสมัครได้ที่ https://www.exness.com/a/1807
2. ใช้ MT4 ด้วยจุดทศนิยม 5 จุด ทำให้เทรดได้ละเอียดกว่าโบรกเกอร์ทั่วไป
3. ตั้งเป้าได้ที่ระยะห่างจากจุดปัจจุบันไม่จำกัด (บางโบรกจำกัดที่ต้องเกิน 10 จุด)
4. สเปรดต่ำ (1 จุด ขึ้นไป สำหรับ อียู) และลอยตัวตามสภาวะตลาด เหมือนระบบ ECN ทำให้คนที่เทรดสั้นได้สะดวกมากขึ้น
3. Leverage 1:1000 ทำให้ใช้ทุนน้อยมาก เช่น เทรดจุดละ 1 ดอล ใช้ทุนประมาณ 15 ดอล เท่านั้น ขณะที่โบรก อื่นๆ ใช้ทุนประมาณ 30 ดอล ที่ Leverage 1:500
4. เทรดขั้นต่ำได้ที่ 0.01 ลอต หรือจุดละ 0.1 ดอล
สัดส่วนการเทรดเหมือนกับบัญชีดอล เช่น 0.1 ลอต คือ จุดละ 1 ดอล
5. ฝากขั้นต่ำเพียง 10 ดอล
6. รับโบนัส 15 % ทุกครั้งที่ฝาก (โบนัสจะถอนออกไม่ได้ ใช้สำหรับเทรดเท่านั้น)
7. ถอนไวมาก LR และ WMZ แทบจะ real time ไม่ต้องรอข้ามวัน เท่าที่ทดลองใช้เวลา 10 นาที - 1 ชม. โดยถอนได้ตลอดเวลา ไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่ทำงานเหมือนที่อื่นๆ ข้ามวัน หากต้องการด่วนๆ ก็สามารถเข้าไปแจ้งที่ live support ให้ดำเนินการได้ทันที

ทดลองสมัครและใช้งานได้ที่ https://www.exness.com/a/1807

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก 13 พย.: ดาวโจนส์ปิดบวก 73 จุด หลังบริษัทเอกชนเผยผลประกอบการดีเกินคาด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) หลังจากที่รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดของวอลท์ ดิสนีย์ และบริษัทค้าปลีก ได้ช่วยเพิ่มความหวังให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงก็ช่วยดึงดูดให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นเช่นกัน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 73.00 จุด หรือ 0.72% ปิดที่ 10,270.47 จุด ดัชนี S&P 500 ไต่ขึ้น 6.24 จุด หรือ 0.57% ปิดที่ 1, 093.48 จุด และดัชนี Nasdaq บวก 18.86 จุด หรือ 0.88% ปิดที่ 2,167.88 จุด ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเบาบาง ที่ราว 985 ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 11 ต่อ 4 ปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 1.90 พันล้านหุ้น ตลาดวอลล์สตรีทซึ่งถูกแรงเทขายกดร่วงลงถึง 94 จุดเมื่อวันพฤหัสบดี ได้กลับมาดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ หลังจากที่บริษัทวอลท์ ดิสนีย์ บริษัทสื่อรายใหญ่สุดของโลกได้เปิดเผยผลกำไรไตรมาสสี่เพิ่มขึ้นเกินคาด 18% ซึ่งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุนเกี่ยวกับภาคเอกชน ด้านอะเบอร์ครอมบี แอนด์ ฟิทช์ ผู้ค้าปลีกเสื้อผ้า รายงานผลกำไรไตรมาสสามที่ 30 เซนต์ต่อหุ้น ขณะที่ เจ.ซี. เพนนี ห้างสรรพสินค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐ ยกระดับคาดการณ์ผลกำไรและยอดขายรายปี หลังจากผลประกอบการไตรมาสสามดีเหนือความคาดหมาย
หุ้นดิสนีย์ บวก $1.39 หรือ 4.8% แตะ $30.44, อะเบอร์ครอมบี กระโดดขึ้น $3.92 หรือ 10.7% แตะ $40.68 และ เจ.ซี. เพนนี บวก $1.82 หรือ 6.2% แตะ $31.21
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากเงินดอลลาร์ด้วย โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มวัตถุดิบ โดยวานนี้เงินดอลลาร์กลับมาร่วงลงอีกครั้งเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ เนื่องจากการขาดดุลการค้าของสหรัฐในเดือนก.ย.ได้พุ่งขึ้นสูงเกินคาดถึง 18.2% แตะ 3.65 หมื่นล้านดอลลาร์ มากสุดในรอบ 10 ปี และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ระดับ 3.17 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ผลประกอบการที่ดีเหนือความคาดหมายของภาคเอกชนได้ช่วยบรรเทาความวิตกกังวลเกี่ยวกับรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่น่าผิดหวังและตัวเลขขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ตลาดร่วงลงในช่วงสั้นๆวานนี้ หลังจากที่มีการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นโดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนประจำเดือนพ.ย. ร่วงลงมาอยู่ที่ 66.0 จากระดับ 70.6 ในเดือนต.ค. ซึ่งได้จุดกระแสความกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยนักลงทุนกังวลว่า ผู้บริโภคอาจยังไม่พร้อมที่จะใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นในช่วงวันหยุดปลายปีนี้ ขณะที่มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาล อาทิ โครงการรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ เริ่มคลายมนต์ขลัง นักวิเคราะห์กล่าวว่า ข่าวเกี่ยวกับผู้บริโภคจะขับเคลื่อนการซื้อขาย โดยนักลงทุนจะรอดูรายงานเศรษฐกิจจากภาครัฐในสัปดาห์หน้า อาทิ ตัวเลขค้าปลีก รวมไปถึงรายงานผลประกอบการรายไตรมาสจาก Gap Inc., Home Depot Inc., Saks Inc. และ Target Corp

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

Pre Market 13 Nov - Euro Zone

วิเคราะห์เทคนิค EUR/USD 13 พย. intraday: under pressure


Pivot: 1.4895
คำแนะนำ: Short ที่ต่ำกว่า 1.4895 เป้าหมาย @ 1.4845 & 1.481 in extension.
ถ้าทะลุ เหนือ 1.4895 จะขึ้นไปที่เป้าหมาย 1.494 & 1.4975
Key levels
1.4975
1.494
1.4895
1.484
last1.4845
1.481
1.477

วิเคราะห์เทคนิค GBP/USD intraday 13 พย.: the downside prevails.


Pivot: 1.6625
คำแนะนำ: Short ที่ต่ำกว่า 1.6625 ที่เป้าหมาย @ 1.65 & 1.6465 in extension.
หากทะลุ เหนือ1.6625 เป้าหมายด้านบนคือ 1.667 & 1.6725
ข้อคิดเห็น: ถึงแม้ว่าจะรีบาวน์ขึ้นไม่ได้ แต่การลงต่อก็ยังจำกัด
Key levels
1.6725
1.667
1.6625
1.659
last1.65
1.6465
1.64

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก12 พย.: แรงขายหุ้นพลังงาน ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 93.79 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานเพราะกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางอาจฉุดรั้งดีมานด์พลังงานหดตัวลงด้วย หลังจากกระทรวงพลังงานรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นเกินคาด อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนหลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานประจำสัปดาห์ที่ลดลง ซึ่งช่วยพยุงดาวโจนส์ให้สามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 93.79 จุด หรือ 0.91% ปิดที่ 10,197.47 จุด ดัชนี S&P 500 รูดลง 11.27 จุด หรือ 1.03% ปิดที่ 1,087.24 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 17.88 จุด หรือ 0.83% ปิดที่ 2,149.02 จุด ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.05 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 4 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.24 พันล้านหุ้น แฟรงค์ อิงการ์รา จูเนียร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Hennessy Funds ในรัฐคอนเน็กติกัต กล่าวกับเอพีว่า "นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ดิ่งลงกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นเกินคาด สะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยและอัตราว่างงานที่สูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายด้านพลังงาน ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุตสาหกรรมพลังงาน
นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานแม้สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปี 2552 เป็น 84.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 84.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงด้วย โดยหุ้นอนาร์ดาโค ปิโตรเลียม ร่วงลง 3.7% หุ้นเรนจ์ รีซอสเซส ปิดลบ 4.3%
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่แล้วลดลงแตะระดับ 502,000 คน จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ 514,000 คน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนม.ค.ปีนี้ และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันศุกร์ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนต.ค.รวมทั้งข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนก.ย.และมหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนพ.ย.
หุ้นวอล-มาร์ท ปิดบวก 0.5% หลังจากวอล-มาร์ทซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของโลกรายงานผลกำไรรายไตรมาสเพิ่มขึ้น แต่บริษัทคาดการณ์ว่าผลประกอบการในไตรมาส 4 อาจต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ ขณะที่หุ้นโคลห์ คอร์ป ปิดบวก 0.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 21%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น โดยหุ้น 3Com ทะยานขึ้น 31.1% หุ้นฮิวเลตต์-แพคการ์ด (เอชพี) ปิดบวก 4.3% หลังจากมีข่าวว่าเอชพีเล็งซื้อกิจการบริษัท 3Com มูลค่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันกับซิสโก้ ซีสเต็มส์ ในตลาดเครือข่ายคอมพิวเตอร์

วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

TECHNICAL ANALYSIS GBPJPY : 11Nov2009 10:00am


PIVOT
R-4 154.32
R-3 153.21
R-2 152.10
R-1 151.22
Pivot 150.11
S-1 149.23
S-2 148.12
S-3 147.24
S-4 146.36

TREND INDICATOR
A D X UP
M A DOWN
C C I DOWN
B BANDS DOWN
P SAR UP
M A C D DOWN
R S I DOWN
S T O C H UP
WILLIAM DOWN

TODAY STATUS
Today Range : 75 pips
Yesterday Range : 199 pips
Average Range : 242 pips

SIGNAL
BUY @150.61 SL @149.50 TP @152.17
SELL @149.50 SL @150.61 TP @148.84

TECHNICAL ANALYSIS EURUSD : 11Nov2009 10:00am


PIVOT
R-4 1.5156
R-3 1.5111
R-2 1.5065
R-1 1.5029
Pivot 1.4983
S-1 1.4947
S-2 1.4901
S-3 1.4865
S-4 1.4828

TREND INDICATOR
A D X UP
M A UP
C C I UP
B BANDS UP
P SAR UP
M A C D UP
R S I DOWN
S T O C H DOWN
WILLIAM UP

TODAY STATUS
Today Range : 37 pips
Yesterday Range : 82 pips
Average Range : 125 pips

SIGNAL
BUY @1.5008 SL @1.4934 TP @1.5092
SELL @1.4934 SL @1.5008 TP @1.4870

TECHNICAL ANALYSIS GBPUSD : 11Nov2009, 10:00am

PIVOT
R-4 1.7117
R-3 1.7007
R-2 1.6897
R-1 1.6820
Pivot 1.6710
S-1 1.6633
S-2 1.6523
S-3 1.6446
S-4 1.6369
TREND INDICATOR
A D X UP
M A UP
C C I DOWN
B BANDS DOWN
P SAR UP
M A C D UP
R S I DOWN
S T O C H DOWN
WILLIAM UP
TODAY STATUS
Today Range : 37 pips
Yesterday Range : 187 pips
Average Range : 186 pips

SIGNAL
BUY @1.6759 SL @1.6661 TP @1.6877
SELL @1.6661 SL @1.6759 TP @1.6583

World Markets 10 พย: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) แต่ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยในขณะที่ดาวโจนส์ปิดบวก ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 20.03 จุด หรือ 0.20% แตะที่ 10,246.97 แต่ะดัชนี S&P 500 ปิดลบ 0.07 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 1,093.01 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 2.98 จุด หรือ 0.14% แตะที่ 2,151.08 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) หลังจากมีรายงานว่าพายุเฮอร์ริเคน"ไอด้า" ได้อ่อนกำลังลงแล้ว ซึ่งทำให้บริษัทพลังงานกลับมาดำเนินการผลิตที่แท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกได้อีกครั้ง หลังจากความวิตกกังวลพายุไอด้าในช่วงก่อนหน้านี้ทำให้บริษัทพลังงานหลายแห่ง รวมถึงบีพีและเชฟรอน ประกาศระงับสายการผลิตบางส่วนและอพยพคนงานออกจากพื้นที่ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับลดการคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลก สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 38 เซนต์ ปิดที่ 79.05 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 80.45-78.15 ดอลลาร์
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในค่อนข้างซบเซาเนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของสัญญาน้ำมันดิบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหลังจากมีรายงานว่าพายุเฮอร์ริเคน "ไอด้า" อ่อนกำลังลง สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดบวก 1.10 ดอลลาร์ แตะที่ 1,102.50 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1106.8-1099.5 ดอลลาร์
-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์หลังจากที่ประชุม G20 ไม่ได้มุ่งเน้นหารือกันในประเด็นดอลลาร์อ่อนแอ นอกจากนี้ ดอลลาร์พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรหลังจากเยอรมนีรายงานดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ร่วงลงในเดือนพ.ย. และพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ เตือนว่าอังกฤษมีความเสี่ยงที่จะถูกลดอันดับเครดิต ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.10% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4978 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4993 ยูโร/ดอลลาร์ และปรับตัวขึ้น 0.02% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0079 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0077 ฟรังค์/ดอลลาร์ นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้น 0.12% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6730 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.6750 ปอนด์/ดอลลาร์ แต่ร่วงลง 0.16% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 89.850 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 89.990 เยน/ดอลลาร์
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) หลังจากธนาคารบาร์เคลย์สเปิดเผยผลประกอบการที่ย่ำแย่และฟิทช์ เรทติ้งส์ ระบุว่าอังกฤษมีความเสี่ยงที่จะถูกลดอันดับเครดิต อย่างไรก็ตาม ดัชนีปรับตัวลงไม่มากนักเพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคาร HSBC ดัชนี FTSE 100 ลดลง 4.63 จุด ปิดที่ 5,230.55 จุด

วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

World Markets9 พย.: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีเมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.) หลังจากกลุ่ม G20 ยืนยันว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าชาติสมาชิกกลุ่ม 20 จะคงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำไปอีกระยะหนึ่ง โดยเฉพาะสหรัฐ นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงยังช่วยกระตุ้นแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มโลหะ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 203.52 จุด หรือ 2.03% ปิดที่ 10,226.94 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดบวก 23.78 จุด หรือ 2.22% ปิดที่ 1,093.08 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 41.62 จุด หรือ 1.97% ปิดที่ 2,154.06 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 2 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ รายงานที่ว่าพายุเฮอร์ริเคน "ไอด้า" เคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกและส่งผลให้บริษัทพลังงานหลายแห่งรวมถึงบีพีและเชฟรอนต้องอพยพคนงาน ยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคึกคักด้วย บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 2 ดอลลาร์ ปิดที่ 79.43 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 79.80-79.20 ดอลลาร์
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสุงสุดในระดับใหม่เมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.) หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนจากสัญญาน้ำมันดิบที่ทะยานขึ้นหลังจากมีรายงานว่าบริษัทพลังงานในอ่าวเม็กซิโกสั่งอพยพพนักงานและปิดสายการผลิตบางส่วนเนื่องจากพายุเฮอร์ริเคน"ไอด้า"เคลื่อนตัวเข้าสู่ฐานการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,101.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.70 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,096.00-1,111.70 ดอลลาร์
-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.) หลังจากกลุ่ม G20 สนับสนุนการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปอีกระยะหนึ่งจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลง 0.98% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4993 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.4993 ยูโร/ดอลลาร์ และร่วงลง 0.85% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0080 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0166 ฟรังค์/ดอลลาร์
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการเมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.) ขานรับมติที่ประชุม G20 ที่สนับสนุนการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ หลังจากราคาน้ำมันดิบและโลหะทะยานขึ้น บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดพุ่งขึ้น 92.46 จุด หรือ 1.8% แตะที่ 5,235.18 จุด

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก 6 พย.: ดาวโจนส์ปิดบวก 17.46 จุด หลังสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงาน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนต.ค.ที่ลดลงน้อยกว่าในเดือนพ.ย. อย่างไรก็ตาม ตลาดเผชิญแรงกดดันจากคำสั่งขายซึ่งส่งผลสกัดแรงบวกในตลาด เนื่องจากอัตราว่างงานเดือนต.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 26 ปี ซึ่งสภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานเช่นนี้ทำให้นักลงทุนส่วนเชื่อใหญ่เชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำไปอีกระยะหนึ่ง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดขึ้น 17.46 จุด หรือ 0.2% ปิดที่ 10,023.42 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 2.67 จุด หรือ 0.3% ปิดที่ 1,069.30 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 7.12 หรือ 0.3% แตะที่ 2,112.44 จุด ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.1 พันล้านหุ้น เมื่อเทียบกับวันพฤหัสบดีที่ 1.3 พันล้านหุ้น

แม็กซ์ บูบลิทซ์ นักวิเคราะห์จากเอสซีเอ็ม แอดไวเซอร์ส กล่าวกับเอพีว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ประจำเดือนต.ค.ร่วงลง 190,000 ตำแหน่ง ซึ่งแม้ว่าลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลง 175,000 ตำแหน่ง แต่ยังน้อยกว่าตัวเลขจ้างงานเดือนก.ย.ที่ร่วงลง 219,000 ตำแหน่ง

"ตัวเลขจ้างงานเดือนต.ค.ที่ลดลงน้อยกว่าในเดือนก.ย.ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลลงบ้าง นอกจากนี้ การที่อัตราว่างงานเดือนต.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 10.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีครึ่ง ยังทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25% ไปอีกระยะหนึ่ง" บูบลิทซ์กล่าว

ตัวเลขจ้างงานที่ลดลงในอัตราที่ช้าลงในเดือนต.ค.สอดคล้องกับข้อมูลจ้างงานที่สหรัฐได้เปิดเผยไปก่อนหน้านี้ โดย ADP Employer Services เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการเอกชนทั่วประเทศสหรัฐลดการจ้างงานลง 203,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งลดลงน้อยกว่าในเดือนก.ย.ที่นายจ้างลดการจ้างงานมากถึง 227,000 ตำแหน่ง และตัวเลขชาวสหรัฐที่ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ต.ค. ร่วงลง 20,000 ราย แตะระดับ 512,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือนและลดลงต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 523,000 ราย

นักลงทุนจับตาดูการประมูลพันธบัตรมูลค่า 8.1 หมื่นล้านดอลลาร์ของกระทรวงการคลังสหรัฐในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ความสามารถในการระดมทุนของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จำนวนมากคาดว่าดีมานด์พันธบัตรรัฐบาลล็อตนี้จะไม่มากนัก และอาจจะส่งผลกระทบต่อโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลด้วย

หุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) พุ่งขึ้น 6% หลังจากนักวิเคราะห์ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นจีอี ขณะที่หุ้นสตาร์บั๊คส์ปิดบวก 7.2% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีหน้า

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

TECHNICAL ANALYSIS GBPJPY : 2009.11.05 08:09


PIVOT
R-4 157.23
R-3 155.25
R-2 153.26
R-1 151.75
Pivot 149.76
S-1 148.25
S-2 146.26
S-3 144.75
S-4 143.23

TREND INDICATOR
A D X DOWN
M A UP
C C I DOWN
B BANDS DOWN
P SAR DOWN
M A C D DOWN
R S I DOWN
S T O C H UP
WILLIAM DOWN

TODAY STATUS
Today Range : 148 pips
Yesterday Range : 350 pips
Average Range : 289 pips

SIGNAL
BUY @151.46 SL @148.79 TP @154.58
SELL @148.79 SL @151.46 TP @146.57

TECHNICAL ANALYSIS EURUSD : 2009.11.05 13:00



PIVOT
R-4 1.5275
R-3 1.5153
R-2 1.5031
R-1 1.4946


Pivot 1.4824
S-1 1.4739
S-2 1.4617
S-3 1.4532
S-4 1.4447


TREND INDICATOR
A D X UP
M A UP
C C I DOWN
B BANDS UP
P SAR DOWN
M A C D DOWN
R S I UP
S T O C H UP
WILLIAM DOWN

TODAY STATUS
Today Range : 59 pips
Yesterday Range : 207 pips
Average Range : 162 pips

SIGNAL
BUY @1.4913 SL @1.4819 TP @1.5017

SELL @1.4819 SL @1.4913 TP @1.4735

World Markets5 พย.: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่าเศรษฐกิจขยายตัวขึ้นและจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปิดบวกไม่มากนักเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่วิตกกังวลต่อภาวะตึงตัวในตลาดจ้างงานสหรัฐ หลังจากมีการคาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานในเดือนต.ค.จะร่วงลงอีก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 30.23 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 9,802.14 ขณะที่ดัชนี S&P 500 บวก 1.09 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 1,046.50 จุด แต่ดัชนี Nasdaq ขยับลง 1.80 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 2,055.52 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% และส่งสัญญาณว่าจะคงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก ซึ่งสร้างแรงกดดันอย่างหนักให้กับดอลลาร์ สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 80 เซนต์ ปิดที่ 80.40 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 80.40-80.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นอีก 2.40 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) โดยสัญญาทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่เพราะได้ปัจจัยบวกข่าวธนาคารกลางอินเดียเข้าซื้อทองคำจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และยังได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนแอลง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,087.30 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.40 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,080.50-1,096.50 ดอลลาร์
-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% และส่งสัญญาณว่าจะคงดอกเบี้ยต่อไปอีกระยะหนึ่งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางอังกฤษและยุโรปในช่วงเย็นวันพฤหัสบดี และตัวเลขจ้างงานประจำเดือนต.ค.ที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 1.10% เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรที่ 1.4876 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.4714 ยูโร/ดอลลาร์ และดิ่งลง 1.12% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0146 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0261 ฟรังค์/ดอลลาร์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐดิ่งลง 0.91% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6566 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.6416 ปอนด์/ดอลลาร์ แต่ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้น 0.33% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 90.630 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 90.330 เยน/ดอลลาร์
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีมุมมองในด้านบวกต่อข่าวที่ว่ารัฐบาลอังกฤษจะอัดฉีดเงินทุน 3.1 หมื่นล้านปอนด์ หรือ 5.106 หมื่นล้านดอลลาร์ ให้กับธนาคาร ลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ป และรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท มาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ (M&S) และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษที่เพิ่มขึ้น ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 70.68 จุด ปิดที่ 5107.89 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,037.21-5,120.82 จุด

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 ดีดตัวขึ้นหลังจากมีรายงานว่าบริษัท เบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ของ นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ตกลงเข้าซื้อบริษัทเบอร์ลิงตัน นอร์ทเธิร์น ซานตาเฟ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัททางรถไฟขนาดใหญ่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีการประกาศในคืนพุธที่ 4 พ.ย.ตามเวลาประเทศไทย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับลง 17.53 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 9,771.91 จุด แต่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 2.53 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 1,045.41 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 8.12 จุด หรือ 0.40% ปิดที่ 2,057.32 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานและข้อมูลภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่าภาคอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวขึ้นของสหรัฐจะช่วยให้ดีมานด์พลังงานเพิ่มขึ้นด้วย อีกทั้งจะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐในวันพุธนี้ด้วย สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 1.47 ดอลลาร์ หรือ 1.88% ปิดที่ 79.60 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 76.55-79.77 ดอลลาร์
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) โดยสัญญาทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่หลังจากมีรายงานว่าธนาคารกลางอินเดียเข้าซื้อทองคำมูลค่า 6.7 พันล้านดอลลาร์จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งบ่งชี้ว่าดีมานด์การลงทุนในทองคำยังคงแข็งแกร่งในตลาดโลก สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,084.90 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 30.90 ดอลลาร์ หลังจากที่เคลื่อนตัวในช่วง 1,055.50-1,088.50 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 17.180 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 74.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.1 เซนต์ แตะที่ 2.956 ดอลลาร์/ปอนด์
-- ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพคล่องและการปรับโครงสร้างของธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธ และการประชุมธนาคารกลางยุโรปและอังกฤษในวันพฤหัสบดีนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.37% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4714 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.4768 ยูโร/ดอลลาร์ และทะยานขึ้น 0.39% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0261 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0260 ฟรังค์/ดอลลาร์ หากเที่ยบกับสกุลเงินปอนด์ ดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.16% แตะที่ 1.6417 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.6390 ปอนด์/ดอลลาร์ และทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 90.330 เยน/ดอลลาร์
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากธนาคารยูบีเอสรายงานผลประกอบการที่ย่ำแย่ และข่าวที่ว่าทางการอังกฤษยื่นมือช่วยเหลือกิจการรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ และข่าวการระดมทุนของลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 67.29 จุด หรือ 1.32% ปิดที่ 5,037.21 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,985.09-5,104.50 จุด

วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

World Markets2 พย.: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) ขานรับรายงานภาคการผลิตและข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่งของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายค่อนข้างผันผวน ซึ่งทำให้ดาวโจนส์ถอยร่นลงจากระดับสูงสุดของวัน หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่าภาคธนาคารของสหรัฐอาจขาดทุนด้านสินเชื่อมากขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดขึ้น 76.71จุด หรือ 0.79% ปิดที่ 9,789.44 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 6.69 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 1,042.88 จุด และดัชนี Nasdaq ขยับขึ้น 4.09 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 2,049.20 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงและข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีน ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นจะกระตุ้นความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นด้วย สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 1.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.13 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 78.13-77.40 ดอลลาร์

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง และรายงานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีน รวมถึงข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์และภาคการผลิต บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,054.00 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 13.60 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,042.20-1,063.40 ดอลลาร์

-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด ทำให้นักลงทุนลดความต้องการสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในฐานะแหล่งการลงทุนที่ปลอดภัย นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาดูผลการประชุมและแถลงการณ์ภายหลังการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 4 พ.ย.นี้ บลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.35% แตะที่ 1.4766 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.4715 ยูโร/ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.38% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0221 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0260 ฟรังค์/ดอลลาร์

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของอังกฤษ จีนและสหรัฐ รวมทั้ง นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นด้วย บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 59.95 จุด แตะที่ 5,104.50 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,022.52-5,115.70 จุด