วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Technical Analysis for Week 11/29—12/03

EUR/USD trend: sell.
GBP/USD trend: sell.
USD/JPY trend: buy.
EUR/JPY trend: sell.
GBP/JPY trend: sell.

Floor Pivot Points
Pair3rd Sup2nd Sup1st SupPivot1st Res2nd Res3rd Res
EUR/USD1.24521.28261.30371.34111.36221.39961.4207
GBP/USD1.49101.52431.54171.57501.59241.62571.6431
USD/JPY81.7982.2883.1983.6884.5985.0885.99
EUR/JPY104.87107.59109.50112.22114.13116.85118.76
GBP/JPY126.54128.68129.90132.04133.26135.40136.62


Fibonacci Retracement Levels
PairsEUR/USDGBP/USDUSD/JPYEUR/JPYGBP/JPY
100.0%1.37851.608384.18114.94134.18
61.8%1.35621.588983.65113.17132.90
50.0%1.34931.583083.48112.63132.50
38.2%1.34231.577083.31112.08132.10
23.6%1.33381.569683.11111.40131.61
0.0%1.32001.557682.78110.31130.82

วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

วิเคราะห์เทคนิค EUR/USD 25 พ.ย.


EUR/USD intraday: intraday support around 1.328

Pivot: 1.3280

คำแนะนำ : Long positions ที่เหนือระดับ 1.3280 targets @ 1.3355 & 1.3420

หากราคาลงต่ำกว่า 1.3280 เป้าหมายด้านล่างคือ 1.3230 & 1.3150

ข้อสังเกต : ราคาเด้งกลับจากแนวรับ และกำลังทดสองแนวต้าน

Key levels
1.3470
1.3420
1.3355
1.3334 last
1.3280
1.3230
1.3150

วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

วิเคราะห์เทคนิค EUR/USD 17 พ.ย.



EUR/USD intraday: capped by a negative trend line.

Pivot: 1.3570.
คำแนะนำ : SHORT ที่ระดับต่ำกว่า 1.3560 เป้าหมายที่ 1.3435 & 1.3310

หากราคาทะลุผ่านเหนือระดับ 1.357 จะเป็นการเด้งกลับไปที่ 1.3670 & 1.3775.

ข้อสังเกต : ราคายังติดอยู่ในเส้นแนวโน้มขาลง หรือ declining trend line, RSI มีแรงขึ้นน้อย

แนวโน้ม : ระยะสั้น หรือ ST = ขึ้นได้จำกัด ; ระยะกลาง หรือ MT = อยู่ในกรอบ

Key levels , Comment

1.3775 ** Intraday resistance
1.3670 ** Intraday resistance
1.3570 *** Intraday pivot point
1.3504 Last
1.3435 ** Intraday support
1.3310 ** Intraday support
1.3235 ** Intraday support

วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

วิเคราะห์เทคนิค EUR/USD 15 พ.ย.

EUR/USD Print
1 week Trend: (=) 1 month Trend: (=)
EUR/USD intraday: bullish bias above 1.362.
Pivot: 1.3620

คำแนะนำ : Long positions เหนือระดับ 1.3620 targets @ 1.3775 & 1.3825

หากราคาลงต่ำกว่า 1.3620 เป้าหมายด้านล่างคือ 1.3575 & 1.3495

ข้อสังเกต : RSI มีทิศทางปนกัน แต่แนวโน้มขึ้นมากกว่า

Key levels
1.3885
1.3825
1.3775
1.3701 last
1.3620
1.3575
1.3495

วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

จีนหั่นอันดับเครดิตสหรัฐลงสู่ A+ ให้แนวโน้มเชิงลบ หลังเฟดใช้มาตรการ QE2

ต้ากง โกลบอล เครดิต เรทติ้ง ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือของจีน ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือสกุลเงินดอลลาร์และสกุลเงินต่างประเทศของสหรัฐลง 1 ขั้น มาอยู่ที่ระดับ A+ จากเดิมที่ระดับ AA โดยให้แนวโน้มเป็นลบ หลังจากสหรัฐประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินรอบสอง หรือ QE2

ต้ากงระบุว่า การลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการชำระคืนหนี้ที่ลดน้อยลงของสหรัฐ นอกจากนี้ ภาวะอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐอาจนำไปสู่ภาวะถดถอยในระยะยาว และจะยิ่งทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ลดน้อยลงไปอีก

รายงานของต้ากงกล่าวว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจใช้มาตรการ QE2 จะยิ่งฉุดรั้งสกุลเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าลงอีก และจะส่งผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้

"วิกฤตสินเชื่อในสหรัฐขยายวงกว้างจนยากที่จะควบคุม และเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยในระยะยาว นอกจากนี้ ความอ่อนแอของสกุลเงินดอลลาร์จะยิ่งทำให้ความสามารถในการดึงดูดเงินทุนของสหรัฐลดน้อยลงไปด้วย" ต้าถังกล่าวเตือนในรายงาน

ต้ากงกล่าวว่า มาตรการ QE2 ของเฟดไม่ได้ช่วยให้ยอดขาดดุลการคลังของรัฐบาลให้ปรับตัวลงได้ และไม่ได้ช่วยลดภาระการชำระคืนหนี้ในระยะยาวด้วย แต่กลับจะทำให้มูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์ลดน้อยลง

นอกจากนี้ ต้ากงระบุว่า วิกฤตการณ์การเงินทั่วโลกที่เป็นผลมาจากความอ่อนแอของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะยิ่งทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐตกอยู่ในภาวะที่ไม่แน่นอนมากขึ้น และอาจทำให้สหรัฐเผชิญกับความเสี่ยงที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

วิเคราะห์เทคนิค EUR/USD 11 พ.ย.




EUR/USD11/10/2010 3:47 PM Print
1 week Trend: (=) 1 month Trend: (=)
EUR/USD intraday: key Short Term resistance at 1.3825
Pivot: 1.3825

คำแนะนำ : Short positions ที่ระดับต่ำกว่า 1.3825 targets @ 1.3670 & 1.3640

หากราคาผ่านเหนือ 1.3825 เป้าหมายด้านบนคือ 1.3900 & 1.3975

ข้อสังเกต : ด้านขาขึ้นติดแนวต้านที่ระดับ 1.3825

Key levels
1.3975
1.3900
1.3825
1.3780 last
1.3670
1.3640
1.3585

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบยูโร,เยน รับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) โดยยูโรอ่อนตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะของหลายประเทศในยุโรป รวมถึงไอร์แลนด์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ได้แรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในระยะฟื้นตัว

ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.01% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3776 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคาร (9 พ.ย.) ที่ 1.3777 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.81% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6115 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5985 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.62% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 82.280 เยน จากระดับของวันอังคาร 81.770 เยน และดีดตัวขึ้น 0.36% เมื่อเทียบกับเงินฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9711 ฟรังค์ จากระดับ 0.9676 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.26% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0057 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0031 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ทะยานขึ้น 0.85% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7838 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7772 ดอลลาร์สหรัฐ

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปยังคงเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งสกุลเงินยูโรให้อ่อนตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะความกังวลเรื่องความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาลไอร์แลนด์ที่อาจทำให้ไอร์แลนด์ต้องขอความช่วยเหลือทางการเงินจากสหภาพยุโรป

รายงานระบุว่า รัฐบาลไอร์แลนด์เตรียมขึ้นภาษีและอาจต้องลดจำนวนหน่วยงานของรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหายอดขาดดุลงบประมาณ นอกจากนี้ ข่าวที่ว่าหลายประเทศในกลุ่มยูโรโซนมีแผนออกตราสารหนี้เพื่อระดมเงินทุน ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินยูโร และหันมาซื้อดอลลาร์สหรัฐที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า แต่ปลอดภัยมากกว่า

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ย.ที่ลดลงสู่ระดับ 4.40 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดว่าจะอยู่ที่ 4.55 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยให้สหรัฐสามารถส่งออกสินค้าได้เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ร่วงลง 24,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 435,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 450,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐกำลังฟื้นตัว

นักลงทุนจับตาดูการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ รวมทั้งจับตาดูการประชุม G20 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงโซล เกาหลีใต้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะมุ่งเน้นเรื่องการแก้ปัญหาภาวะไร้สมดุลในระบบเศรษฐกิจโลก เพื่อเป้าหมายที่จะสร้างความเชื่อมั่นว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกจะเป็นไปอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ คาดว่าที่ประชุม G20 จะหารือและเรื่องความกังวลเกี่ยวกับเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงและสภาพคล่องในระบบที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2

วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

วิเคราะห์เทคนิค EUR/USD 10 พ.ย.

EUR/USD Print
1 week Trend: (=) 1 month Trend: (=)

EUR/USD intraday: under pressure.

Pivot: 1.3900

คำแนะนำ : Short ที่ระดับต่ำกว่า 1.3900 targets @ 1.3697 & 1.3640

หากราคาขึ้นสูงกว่า 1.3900 เป้าหมายด้านบนคือ 1.3975 & 1.4025

ข้อสังเกต : RSI เป็นภาวะ bearish (แนวโน้มลง) และยังมีทิศทางลงต่อ

Key levels
1.4025
1.3975
1.3900
1.3760 last
1.3697
1.3640
1.3565

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก 8 พ.ย.: วิตกปัญหาหนี้ยุโรป ฉุดยูโรร่วงเทียบดอลล์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) โดยยูโรร่วงลงอย่างหนักเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะและยอดขาดดุลงบประมาณของไอร์แลนด์ ซึ่งความกังวลในเรื่องดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าและมีความปลอดภัยมากกว่า

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.82% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3916 ยูโร จากระดับของวันศุกร์ (5 พ.ย.) ที่ 1.4031 ยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์ดิ่งลง 0.27% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6133 ปอนด์ จากระดับ 1.6177 ปอนด์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.50% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9659 ฟรังค์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 0.9611 ฟรังค์ และร่วงลง 0.12% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 81.150 เยน จากระดับ 81.250 เยน

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลง 0.30% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0130 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.0160 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 1.17% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7873 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7966 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินยูโรร่วงลงเนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป โดยล่าสุดมีรายงานว่ารัฐบาลไอร์แลนด์ประกาศเมื่อวานนี้ว่าจะขึ้นภาษี และอาจต้องลดจำนวนหน่วยงานของรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหายอดขาดดุลงบประมาณ นอกจากนี้ ข่าวที่ว่าหลายประเทศในกลุ่มยูโรโซนมีแผนออกตราสารหนี้เพื่อระดมเงินทุน ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินยูโร และหันมาซื้อดอลลาร์สหรัฐที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า แต่ปลอดภัยมากกว่า

ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้น หลังจากถูกเทขายอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2 ด้วยการอัดฉีดเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล เพื่อทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวปรับตัวลดลงและกระตุ้นการไหลเวียนของเม็ดเงินในระบบ

สำนักงานสถิติกลางของเยอรมนีรายงานว่า ยอดส่งออกของเยอรมนีขยายตัว 22.5% ในเดือนกันยายน แตะที่ 8.69 หมื่นล้านยูโร (1.224 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)จากระดับ 7.09 หมื่นล้านยูโรในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ประเทศกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากวิกฤตการเงิน ส่วนทางด้านยอดนำเข้าขยายตัว 18% แตะที่ 7.01 หมื่นล้านยูโร (9.87 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนกันยายน

ทั้งนี้ เยอรมนีมียอดเกินดุลการค้า 1.68 หมื่นล้านยูโร (2.366 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนกันยายนปีนี้ เทียบกับเดือนกันยายนปีที่แล้วที่มียอดเกินดุล 1.15 หมื่นล้านยูโร (1.62 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)

คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีแนวโน้มการจ้างงานเดือนตุลาคมของสหรัฐยืนอยู่ที่ระดับ 98.1 จุด เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายนที่ระดับ 97.3 จุด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐในอีก 1-2 ไตรมาสข้างหน้ามีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย. วันพุธ ทางการสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และงบประมาณของรัฐบาลกลางประจำเดือนต.ค. ส่วนวันศุกร์จะมีการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐขั้นต้นเดือนพ.ย.

วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก 5 พ.ย.: ดอลล์ดีดตัวเทียบสกุลเงินหลัก ขานรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐพุ่งสูงเกินคาด

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่พุ่งสูงขึ้นเกินคาดในเดือนต.ค.

เงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นกว่า 1% เมื่อเทียบกับเงินยูโร ส่งผลให้เงินยูโรอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 1.4031 ดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดี (4 พ.ย.) ที่1.4198 ดอลลาร์ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ โดยค่าเงินปอนด์เคลื่อนไหวอ่อนค่าลง 0.50% มาอยู่ที่ 1.6182 ดอลลาร์ จากระดับ 1.6263 ดอลลาร์

ขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.67% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 81.250 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 80.710 เยน และแข็งค่า 0.30% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9617 ฟรังค์ จากระดับ 0.9588 ฟรังค์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับขึ้น 0.08% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0149 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.0141 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับขึ้น 0.01% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7942 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7941 ดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ เงินดอลลาร์ได้รับปัจจัยหนุนหลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ส่วนอัตราว่างงานยังคงทรงตัวในระดับเดิมที่ 9.6%

ตัวเลขจ้างงานของบริษัทเอกชนในสหรัฐเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยอัตราการจ้างงานภาคเอกชนที่พุ่งสูงขึ้น 159,000 ตำแหน่ง สามารถชดเชยตัวเลขจ้างงานภาครัฐที่ปรับตัวลดลง 8,000 ตำแหน่งได้ นอกจากนี้ ตัวเลขจ้างงานที่มีการเปิดเผยออกมาล่าสุดนี้ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 60,000 ตำแหน่ง

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า เงินดอลลาร์อาจเผชิญแรงกดดันให้ต้องเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงขาลงในอนาคต จากผลกระทบของการประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2 ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีเป้าหมายในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

Technical Analysis for Week 11/08—11/12

EUR/USD trend: hold.
GBP/USD trend: buy.
USD/JPY trend: hold.
EUR/JPY trend: hold.
GBP/JPY trend: buy.

Floor Pivot Points
Pair3rd Sup2nd Sup1st SupPivot1st Res2nd Res3rd Res
EUR/USD1.34191.36421.38361.40591.42531.44761.4670
GBP/USD1.56581.58091.59951.61461.63321.64831.6669
USD/JPY79.2579.7680.5181.0281.7782.2883.03
EUR/JPY108.38110.06112.04113.72115.70117.38119.36
GBP/JPY126.33127.58129.51130.76132.69133.94135.87



Fibonacci Retracement Levels
PairsEUR/USDGBP/USDUSD/JPYEUR/JPYGBP/JPY
100.0%1.42811.629881.54115.41132.00
61.8%1.41221.616981.06114.01130.79
50.0%1.40731.613080.91113.58130.41
38.2%1.40231.609080.76113.15130.03
23.6%1.39621.604180.58112.61129.57
0.0%1.38641.596180.28111.75128.82