วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

วิเคราะห์เทคนิค EUR/USD 24 ธ.ค. 53

EUR/USD intraday: key ST resistance at 1.3150

Pivot: 1.3150

คำแนะนำ : Short positions ที่ระดับต่ำกว่า 1.3150 targets @ 1.3035 & 1.2980

หากราคาผ่านเหนือ 1.3150 เป้าหมายด้านบนคือ 1.3185 & 1.3225

ข้อสังเกต : ราคายังอยู่ในกรอบขาลง bearish channel และกำลังทดสอบแนวต้าน

Key levels
1.3225
1.3185
1.3150
1.3125 last
1.3035
1.2980
1.2950

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก 23 ธ.ค.: ดอลล์เคลื่อนตัวผันผวน แม้สหรัฐเผยข้อมูลเศรษฐกิจสดใส

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนตัวผันผวนในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) แม้ทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนช่วงวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาส ขณะที่ค่าเงินยูโรฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย หลังจากร่วงลงอย่างหนักเป็นเวลาหลายวัน อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป รวมถึงการที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือเตือนว่าจะลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนและกรีซ

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.09% แตะที่ 1.3111 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3099 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.20% แตะที่ 1.5414 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5384 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.68% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 82.980 เยน จากระดับของวันพุธที่ 83.550 เยน แต่พุ่งขึ้น 0.84% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9597 ฟรังค์ จากระดับ 0.9517 ฟรังค์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.37% แตะที่ 1.0035 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 0.9998 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.66% แตะที่ 0.7463 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7414 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนตัวผันผวน โดยดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยน แม้ทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 3,000 ราย แตะที่ 420,000 ราย ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% ตัวเลขรายได้ส่วนบุคลลเพิ่มขึ้น 0.3% และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย.ที่ไม่นับรวมสินค้าในอุตสาหกรรมการขนส่ง เพิ่มขึ้น 2.4%

ส่วนค่าเงินยูโรขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป รวมถึงการที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ โดยเตือนว่าฟิทช์อาจจะลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรของกรีซลงสู่ "สถานะขยะ" หรือ "สถานะที่ไม่น่าลงทุน" จากระดับปัจจุบันที่ BBB- ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของ "สถานะที่น่าลงทุน"

ขณะที่ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่าอาจจะทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ของรัฐบาลสเปน เนื่องจากอัตราว่างงานของสเปนอยู่ที่ระดับเกือบ 20% และภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว อันเนื่องมาจากรัฐบาลประกาศใช้มาตรการรัดเข็มขัดหลายครั้ง

ทั้งนี้ ค่าเงินยูโรร่วงลงไปแล้วกว่า 8% นับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.เป็นต้นมา เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลที่ว่า สเปนและโปรตุเกสอาจจะต้องขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) เหมือนกับกรีซและไอร์แลนด์

รัฐสภากรีซมีมติรับรองงบประมาณปี 2554 เมื่อวานนี้ ซึ่งครอบคลุมมาตรการรัดเข็มขัดที่มีความเข้มงวดมากขึ้น อาทิ การลดรายจ่ายเพิ่มขึ้น และ การขึ้นภาษี ซึ่งเป็นไปตามที่กรีซได้ตกลงไว้กับ สหภาพยุโรป และ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการขอรับเงินช่วยเหลือเพื่อแก้ปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศ โดยคาดว่างบประมาณปี 2554 จะช่วยลดยอดขาดดุลงบประมาณของประเทศลงได้อีก 5 พันล้านยูโร โดยจะทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณอยู่ที่ 7.4% ของจีดีพีในปีหน้า ซึ่งลดลงจาก 9.4% ในปีนี้

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าก่อนที่จะมีการลงคะแนนเสียงนั้น สหภาพการขนส่งสาธารณะ อาทิ รถบัสและรถไฟใต้ดิน ได้นัดผละงานประท้วงอีก 24 ชั่วโมง เนื่องจากไม่พอใจที่พวกเขาจะถูกลดค่าแรง ส่งผลให้การจราจรในกรุงเอเธนส์ติดขัด เนื่องจากประชาชนต้องหันมาใช้บริการรถแท็กซี่และรถยนต์แทน อย่างไรก็ดี การให้บริการเที่ยวบินและเรือข้ามฟากไม่ได้รับผลกระทบจากการสไตรค์ครั้งนี้

วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ผู้นำ EU เตรียมแก้ไขกฏหมายเพื่อสร้างเสถียรภาพเงินยูโร

ผู้นำกลุ่มสหภาพยุโรปเตรียมถกกรณีแก้กฏหมายของกลุ่มในสัปดาห์นี้ เพื่อช่วยสร้างเสถียรภาพให้แก่ค่าเงินยูโร ด้วยการสร้างกลไกใหม่ขึ้นใช้ ภายในปี 2556

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานโดยอ้างร่างผลการประชุมของผู้นำสหภาพยุโรปว่า ในการประชุมครั้งต่อไปในสัปดาห์นี้ ที่ประชุมสหภาพยุโรป (EU) จะถกเรื่องการแก้ไขข้อกฎหมายสนธิสัญญาอียูในบางจุด เพื่อเปิดทางไปสู่การจัดตั้งกลไกสร้างเสถียรภาพ (the European Stability Mechanism :ESM) ในปี 2556

ทาง EU หวังว่า ESM จะเป็นตัวช่วยเหลือทางการเงินให้แก่ประเทศสมาชิกยูโรโซน ที่มีปัญหาสภาพคล่อง แต่ไม่ถึงกับมีหนี้ล้นจนชำระไม่ไหว โดยมีการคาดกันว่า ESM นี้จะมีขนาดใหญ่กว่ากองทุนเงินช่วยเหลือของกลุ่ม ที่มีมูลค่า 750 ล้านยูโรในปัจจุบัน

อย่างไรก็ดี ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้นได้ ทางเยอรมนีและฝรั่งเศสได้ออกมาเรียกร้องให้แก้ไขข้อกฏหมายสนธิสัญญาของ EU ก่อน เพื่อไม่ให้การทำงานของ ESM ขัดกับรัฐธรรมนูญของตน ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามแผน ESM จะเข้าสู่ขั้นเตรียมการตามข้อตกลงของรัฐมนตรีคลังยูโรโซนจากทั้ง 27 ประเทศ

วิเคราะห์เทคนิค EUR/USD 14 ธ.ค.

EUR/USD intraday: the upside prevails

Pivot: 1.3275

คำแนะนำ : Long ที่ระดับเหนือ 1.3275 targets @ 1.3440 & 1.3500

หากราคาลงต่ำกว่า 1.3275 เป้าหมายด้านล่างคือ 1.3225 & 1.3180

ข้อสังเกต : ถึงการปรับฐานจะไม่เกิดต่อเนื่องมาก แต่การเคลื่อนต่อไปก็ยังคงมีจำกัด

Key levels
1.3570
1.3500
1.3440
1.3373 last
1.3275
1.3225
1.3180

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก 13 ธ.ค.: ดอลล์ร่วงหนัก หลังมูดีส์ขู่หั่นเครดิตสหรัฐหากผ่านมติโครงการลดภาษี

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่าการที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา และแกนนำพรรครีพับลิกันมีมติขยายโครงการลดหย่อนภาษี อาจส่งผลให้ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐสูงขึ้น และอาจทำให้มูดีส์ลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วลง 0.60% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 83.410 เยน จากระดับของวันศุกร์ (10 ธ.ค.) ที่ 83.910 เยน และร่วงลง 1.22% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9681 ฟรังค์ จากระดับ 0.9801 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 1.19% แตะที่ 1.3390 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3233 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.25% แตะที่ 1.5856 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5816 ดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.94% แตะที่ 0.9947 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 0.9854 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้น 0.92% แตะที่ 0.7549 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7480 ดอลลาร์สหรัฐ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากมูดีส์เตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ Aaa ของสหรัฐ หากข้อตกลงการขยายโครงการลดหย่อนภาษีที่โอบามาทำร่วมกับพรรครีพับลิกันนั้น มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย

ประธานาธิบดีโอบามาและแกนนำพรรครีพับลิกัน ได้บรรลุข้อตกลงการขยายโครงการลดหย่อนภาษีเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่าทางรัฐบาลจะขยายโครงการลดหย่อนภาษีของผู้มีรายได้ทุกระดับชั้นออกไปอีก 2 ปี พร้อมกับขยายระยะเวลาการให้สวัสดิการแก่ประชาชนที่ว่างงานหลายล้านคนออกไปอีก 13 เดือน แม้ข้อตกลงดังกล่าวจะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากแกนนำพรรคเดโมแครตก็ตาม

ข้อตกลงดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าอาจส่งผลให้ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก หลังจากรัฐบาลกลางสหรัฐขาดดุลงบประมาณเดือนพ.ย.ปีนี้ที่ 1.504 แสนล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.32 แสนล้านดอลลาร์ และมากกว่าเดือนพ.ย.ปีที่แล้วที่ระดับ 1.20 แสนล้านดอลลาร์

สำนักงบประมาณแห่งรัฐสภาสหรัฐ (CBO) คาดว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐจะอยู่ที่ 1.34 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2553 แต่ยังต่ำกว่ายอดขาดดุลในปีงบประมาณ 2552 อยู่ประมาณ 7.1 หมื่นล้านดอลลาร์

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค.จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนพ.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันอังคารที่ 14 ธ.ค.นี้ โดยมีการคาดการณ์ในวงกว้างว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับ 0-0.25%

วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

วิเคราะห์เทคนิค EUR/USD 13 ธ.ค.

EUR/USD intraday: under pressure

Pivot: 1.3250

คำแนะนำ : Short positions ที่ระดับต่ำกว่า 1.3250 เป้าหมาย @ 1.3150 & 1.3110

หากราคาผ่านเหนือ 1.3250 เป้าหมายด้านบนคือ 1.3280 & 1.3320

ข้อสังเกต : RSI เป็นภาวะด้านลง (bearish)

Key levels
1.3320
1.3280
1.3250
1.3188 last
1.3150
1.3110
1.3080

วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Technical Analysis for Week 13—17 Dec


EUR/USD trend: hold.
GBP/USD trend: buy.
USD/JPY trend: buy.
EUR/JPY trend: buy.
GBP/JPY trend: buy.

Floor Pivot Points
Pair3rd Sup2nd Sup1st SupPivot1st Res2nd Res3rd Res
EUR/USD1.28631.30131.31211.32711.33791.35291.3637
GBP/USD1.54811.55681.56881.57751.58951.59821.6102
USD/JPY80.7681.5482.7483.5284.7285.5086.70
EUR/JPY107.77108.66109.85110.74111.93112.82114.01
GBP/JPY126.99128.26130.47131.74133.95135.22137.43


Fibonacci Retracement Levels
PairsEUR/USDGBP/USDUSD/JPYEUR/JPYGBP/JPY
100.0%1.34221.586184.30111.64133.00
61.8%1.33231.578283.54110.85131.67
50.0%1.32931.575883.31110.60131.26
38.2%1.32631.573383.08110.35130.85
23.6%1.32251.570382.79110.05130.34
0.0%1.31641.565482.32109.56129.52


ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก 10 ธ.ค.: ดอลล์พุ่งรับยอดขาดดุลการค้าสหรัฐร่วงต่ำสุดในรอบ 9 เดือน

ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เนื่องจากความกังวลที่ว่ารัฐมนตรีคลังกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) อาจมีความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกันในเรื่องการแก้วิกฤตหนี้สาธารณะในการ ประชุมสัปดาห์หน้า ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นขานรับยอดขาดดุลการค้าที่ร่วงลงต่ำ สุดในรอบ 9 เดือน นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาดูความเคลื่อนไหวของจีน หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ เมื่อวานนี้

ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.09% แตะระดับ 1.3230 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดี (9 ธ.ค.) ที่ 1.3242 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.20% แตะที่ 1.5800 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5768 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.25% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 83.890 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 83.680 เยน และอ่อนตัวลง 0.20% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9809 ฟรังค์ จากระดับ 0.9829 ฟรังค์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับขึ้น 0.02% แตะระดับ 0.9845 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.9843 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.33% แตะระดับ 0.7468 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7493 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงในขณะที่นักวิเคราะห์ในตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก คาดว่า สกุลเงินยูโรจะร่วงลงอีกในสัปดาห์ เนื่องจากความกังวลที่ว่าในการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้นำกลุ่มอียูในวันที่ 16-17 ธ.ค.นี้ ผู้นำอียูจะมีความเห็นที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับมาตรการแก้วิกฤตหนี้สาธารณะที่ กำลังลุกลามในยุโรป หลังจากรัฐบาลเยอรมนีและฝรั่งเศสได้ปฏิเสธเสียงเรียกร้องให้มีการเพิ่มเงิน ในกองทุนกู้วิกฤตยุโรป และปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือในโครงการซื้อพันธบัตร

ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นขานรับยอดขาดดุลการค้าเดือนต.ค.ของ สหรัฐที่ลดลง 13.2% แตะระดับ 3.87 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน เนื่องจากตัวเลขการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้น ในขณะที่ตัวเลขการนำเข้าปรับตัวลดลง

นักลงทุนจับตาดูความเคลื่อนไหวของจีนอย่างต่อเนื่อง หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานการกันสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ อีก 0.5% เมื่อวานนี้ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.เป็นต้นไป เพื่อรับมือกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และเพื่อควบคุมปริมาณการปล่อยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์

ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ของธนาคารพาณิชย์เดือนพ.ย.ปีนี้ ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 5.64 แสนล้านหยวน จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 5.877 แสนล้านหยวน แต่ยอดการปล่อยกู้ใหม่เดือนพ.ย.ปีนี้ยังสูงกว่าระดับของเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ที่ 2.692 แสนล้านหยวน

ทางการจีนได้เลื่อนกำหนดการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคจากวันจันทร์ที่ 13 ธ.ค. เป็นวันเสาร์ที่ 11 ธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จีนจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากเปิดเผยข้อมูล เศรษฐกิจครั้งนี้แล้ว

ธอมสัน รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเบื้องต้นเดือนธ.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 74.2 จุด จากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 71.6 จุด โดยดัชนีความเชื่อมั่นเดือนธ.ค.ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2551 ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้บริโภคยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของ เศรษฐกิจสหรัฐ

วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2553

วิเคราะห์เทคนิค EUR/USD 7 ธ.ค.

EUR/USD intraday: bullish bias above 1.3215

Pivot: 1.3215

คำแนะนำ : Long positions เหนือระดับ 1.3215 targets @ 1.338 & 1.3435

หากราคาลงต่ำกว่า 1.3215 เป้าหมายด้านล่างคือ 1.3135 & 1.3055

ข้อสังเกต : RSI มีแรงลงน้อย

Key levels
1.3500
1.3435
1.3380
1.3289 last
1.3215
1.3135
1.3055