ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง 0.65% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 84.640 เยน จากระดับของวันศุกร์ (27 ส.ค.) ที่ 85.190 เยน และร่วงลง 0.12% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0264 ฟรังค์ จากระดับ 1.0276 ฟรังค์
ส่วนค่าเงินยูโรร่วงลง 0.79% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2661 ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.2762 ดอลลาร์ และเงินปอนด์ดิ่งลง 0.37% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5462 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5520 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลง 0.63% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8931 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 0.8988 ดอลลาร์ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.28% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7084 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7104 ดอลลาร์สหรัฐ
เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์เนื่องจากการนโยบายผ่อนปรนด้านการเงินเพิ่มเติมที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประกาศใช้ในการประชุมฉุกเฉินเมื่อวานนี้ ด้วยเป้าหมายที่จะสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยนนั้น ไม่ได้สร้างความพอใจให้กับนักลงทุนเท่าใดนัก นอกจากนี้ การที่บีโอเจตัดสินใจขยายโครงการปล่อยเงินกู้จากเดิม 20 ล้านล้านเยน เป็น 30 ล้านล้านเยน ก็เป็นจำนวนเงินที่ตลาดคาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
เดิมทีนั้น คณะกรรมการบีโอเจวางแผนไว้ว่าจะหารือเรื่องมาตรการผ่อนปรนด้านการเงินเพิ่มเติมในการประชุมนโยบายตามกำหนดการในวันที่ 6 - 7 ก.ย.นี้ หลังจากบีโอเจถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติของรัฐบาลให้เร่งใช้มาตรการฉุกเฉินเพิ่มเติม เนื่องจากเงินเยนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์และยูโร ซึ่งกำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ
ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนตัวผันผวนตลอดทั้งวันเนื่องจากกระแสความวิตกกังวลก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนส.ค.ในวันศุกร์ และหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นร้อยละ 70 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค. ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.2%