วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2563

30 มิ.ย.สรุปข่าวเศรษฐกิจค่ำคืนนี้ ตลาดยังคงสถานะแบบ RISK OFF

5 ปัจจัยสำคัญในการลงทุนฝั่งอเมริกา-ยุโรปสำหรับวันนี้ (30 มิ.ย.)


1 จีนบังคับใช้กฎหมายฮ่องกง, สหรัฐตอบโต้เอาคืน
คณะกรรมการสูงสุดของจีนได้ผ่านกฎหมายว่าด้วยการปกครองฮ่องกงในวันนี้ รัฐบาลสหรัฐจึงตอบโต้ด้วยการเพิกถอนสถานะพิเศษทางการค้าของฮ่องกง
โดยความคืบหน้าครั้งนี้ตามมาหนึ่งวันให้หลังจากที่เศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณการฟื้นตัวอีกครั้ง โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคการผลิตของจีนสูงขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 50.9 และดัชนีนอกภาคการผลิตก็สูงขึ้น 54.4 จากเดือนที่แล้ว 53.6 และจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยบวกที่ช่วยดันราคาทองแดงให้สูงกว่า $2.70 ต่อปอนด์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม
2. เพาเวลล์และมนูชินให้คำกล่าวล่วงหน้าก่อนวันชาติอเมริกา
ประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสตีเวน มนูชิน จะแถลงต่อหน้าคณะกรรมการบริการทางการเงินในช่วงครึ่งหลังของวันนี้
อ้างอิงจากคำแถลงของนายเพาเวลล์ที่ได้มีการเผยแพร่เมื่อวานนี้ระบุว่า “หนทางของเศรษฐกิจสหรัฐนั้นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และขึ้นอยู่กับการควบคุมการระบาดของประเทศให้สำเร็จ" และ "การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างสมบูรณ์นั้นยังไม่น่าจะเกิดขึ้นจนกว่าประชาชนจะมั่นใจได้ว่าการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ทางสังคมนั้นสามารถกระทำได้อย่างปลอดภัย"
คำเตือนของนายเพาเวลล์ตามมาหลังจากหลายรัฐได้เพิ่มความเข้มงวดของมาตรการควบคุมโรคมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การระบาดอาจย่ำแย่ลงกว่าเดิมในช่วงวันหยุดที่กำลังจะถึงเนื่องในวันชาติอเมริกา โดยเมืองต่าง ๆ ในแคลิฟอร์เนียและฟลอริดาต่างก็สั่งปิดชายหาด ขณะที่แคนซัสและโอเรกอนก็ได้บังคับใช้ข้อบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะภายในอาคารด้วย
3 ตลาดหุ้นเตรียมขยับหลายทิศทาง หุ้น Boeing ย่อตัวลง
ตลาดหุ้นสหรัฐมีแววว่าจะเปิดตัวหลายทิศทางในวันสุดท้ายของไตรมาสที่ยอดเยี่ยมในสุดในรอบศตวรรษ
เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1030 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนี Dow Jones 30 ล่วงหน้าขยับลง 54 จุดหรือ 0.2% ส่วนสัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าติดลบ 0.1% และสัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้าคงตัว ดัชนี Dow ทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนักเนื่องจากหุ้น Boeing ปรับตัวลงในช่วงก่อนเปิดตลาดหลังมีข่าวว่า Norwegian Air Shuttle ได้ยกเลิกการสั่งซื้อเครื่องบิน 737 MAX ล็อตใหญ่
ในทางตรงกันข้าม Nasdaq ได้รับแรงหนุนหลังเวลาตลาดปิดเมื่อวันพฤหัสบดี นำโดย Micron Technology และบริษัทผู้ผลิตฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ Xilinx
ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้จะมีการรายงานดัชนี PMI ของชิคาโกในเวลา 9:45 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากคณะกรรมการประชุมประจำเดือนมิถุนายนในเวลา 10.00 น.
4. เงินปอนด์อ่อนค่าลง นายกจอห์นสันวางแผนจ่ายหนัก
แผนการของสหราชอาณาจักรที่จะเปิดเศรษฐกิจเมื่อสุดสัปดาห์นี้กลับต้องหยุดชะงัก เนื่องจากรัฐบาลจำเป็นต้องล็อกดาวน์เมืองเลสเตอร์ (มีประชากร 330,000 คน) เนื่องจากพบการแพร่ระบาดในพื้นที่
ในวันนี้นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายบอริส จอห์นสัน จะมีกำหนดการแถลงการณ์ครั้งสำคัญในวันนี้เกี่ยวกับแนวทางการนำประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤต ด้วยการขยายการใช้งบประมาณเพื่อปฏิรูปโครงสร้างและการศึกษา
ค่าเงินปอนด์ปรับตัวลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งเดือนเมื่อซื้อขายคู่กับดอลลาร์สหรัฐ และยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบสามเดือนเมื่อซื้อขายคู่กับเงินยูโร
5. Shell จ่อลดการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ 2.2 หมื่นล้านเหรียญ, ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐจาก API
ภายหลังจากการล่มสลายของบริษัทผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมขุดเจาะหินน้ำมัน Chesapeake Energy เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ในวันนี้ Royal Dutch Shell ได้ออกมาประกาศว่าจะลดการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ลงระหว่าง 1.5 ถึง 2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่สอง แสดงให้เห็นถึงการคาดการณ์ของบริษัทว่าราคาน้ำมันจะยังคงอยู่ในระดับต่ำอีกนาน
บริษัทยังคงไม่เปลี่ยนแปลงการคาดการณ์ราคาน้ำมันระยะยาวที่ $60 ต่อบาร์เรลและ $3 ต่อหนึ่งล้านบีทียูสำหรับก๊าซธรรมชาติ แต่บริษัทระบุว่าจะต้องใช้เวลาจนถึงปี 2023 กว่าราคาจะกลับมาสู่ระดับดังกล่าว สำหรับปีนี้ทางบริษัทคาดไว้ว่าราคาน้ำมันเบรนท์จะเฉลี่ยอยู่ที่ $35 ต่อบาร์เรล และปีหน้าจะสูงขึ้นเป็น $40 ต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้จะมีการรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐประจำสัปดาห์ล่าสุดจากสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (API) ในเวลา 16:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก
สนับสนุนเราโดยเปิดบัญชีเทรด สเปรดต่ำ ฝากถอนไว ได้ที่ 
1. Exness :  https://www.exness.com/a/uh16i33c เทรดได้ทั้ง Crypto ทอง และ Forex

กราฟคาดการณ์ BTC/USD ปี 2020/2021 (tradingview)


30 มิ.ย. สรุปข่าวเศรษฐกิจเช้านี้ ตลาดทรงตัว นายกบอริสเตรียมแผนกระตุ้นใหม่ 5 พันล้านปอนด์

วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2563

ยอดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก #ทะลุ10ล้านรายแล้ว ! โดยสถานการณ์ในสหรัฐยังคงแย่ลงเรื่อยๆ

ยอดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก #ทะลุ10ล้านรายแล้ว ! โดยสถานการณ์ในสหรัฐยังคงแย่ลงเรื่อยๆ #น่าเป็นห่วงตลาดเปิดในวันพรุ่งนี้
📊 ติดตาม 3 ปัจจัยหลักๆที่จะกำหนดทิศทางตลาดในอาทิตย์หน้านี้ไปกับเพจเราได้ครับ
เช้าวันที่ 28 มิ.ย. หลังจากไวรัสโควิดเริ่มระบาดมาเป็นเวลาเกือบ 6 เดือน วันนี้ทั่วโลกมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 10,081,477 คน และมียอดผู้เสียชีวิตที่ 501,298 ราย ในขณะที่มีผู้รักษาตัวหายแล้ว 5,458,367 คน #แต่ที่ยังน่าเป็นห่วงคือ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันทั่วโลกยังคงสูงขึ้นเกือบแตะ 200,000 รายต่อวันแล้ว
🇺🇸 สหรัฐและ 🇧🇷 บราซิลยังเป็นสองประเทศที่เหมือนจะแข่งกันแย่งตำแหน่งผู้ติดเชื้อประกาศรายวันที่สูงที่สุดในโลกสับกันไปสับกันมา ทั้งคู่ยังมีผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเฉลี่ยที่ระดับ 40,000 คนต่อวัน แต่ล่าสุดสหรัฐดีดนำขึ้นอีกรอบและทำสถิติใหม่ที่ 43,000 คนต่อวัน ในขณะที่อินเดียก็ยังรั้งอันดับที่ 3 ที่ประมาณ 20,000 คนต่อวัน และ 🇷🇺 รัสเซียเลขยังคงสูงอยู่ที่วันละ 7,000 ราย
(ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายประเทศและรายวันดูได้จากในคอมเม้นท์เลยนะครับ)
#สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่น่าเป็นห่วงที่สุด และมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกที่มากที่สุด หากดูจากความเคลื่อนไหวล่าสุดที่ออกมาในช่วงสุดสัปดาห์นี้ #ตลาดหุ้นทั่วโลกมีความเสี่ยงสูงมากในอาทิตย์หน้า ครับ
1️⃣ Miami สั่งปิดชายหาดกลางช่วง Summer !
ไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยที่สหรัฐประเทศผู้รักอิสระจะประกาศสั่งปิดชายหาดที่ Miami Beach รัฐ Florida ชายหาดซึ่งเป็นที่นิยมที่สุดในสหรัฐที่ในช่วง Summer จะมีผู้คนเดินทางมาเที่ยวหลายล้านคน โดยในปีนี้ทางรัฐได้รีบสั่งปิดชายหาดก่อนที่วันชาติสหรัฐอเมริกา ( Independence Day) จะมาถึงในอาทิตย์หน้าวันที่ 4 กรกฏาคม นี้ เพื่อกันคนหลายล้านคนที่จะหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวในช่วงหยุดยาว
2️⃣ รัฐ Florida และ Arizona เลขผู้ติดเชื้อโดดทำสถิติใหม่
โดยรัฐหลักๆที่ยังน่าเป็นห่วงที่สุดอยู่ในสหรัฐก็คือ Florida, Texas, California และ Arizona แต่เช้านี้ทางรัฐ Florida และ Arizona ทำสถิติผู้ติดเชื้อใหม่ต่อวันของรัฐดีดขึ้นมาที่ 9,585 ราย และ 3,591 รายตามลำดับ
3️⃣ Mike Pence รองประธานาธิบดีสหรัฐต้องออกมายกเลิกกำหนดการหาเสียงให้ทรัมป์
อาทิตย์หน้านี้ทางรองประธานาธิบดีสหรัฐ Mike Pence มีแผนที่จะเดินทางไปปราศัยที่รัฐ Florida และ Arizona แต่อย่างที่ได้กล่าวไปด้านบนว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อของทั้งสองรัฐนี้กำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง ทำให้ทาง Pence ต้องยกเลิกงานปราศัยแต่ยังจะคงเดินทางไปอยู่
4️⃣ รัฐ Washington ออกมาประกาศระงับแผนการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ในระยะที่ 4
ผู้ว่าการรัฐ Washington ออกมาตัดสินใจระงับแผนการผ่อนคลายเนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นรัฐล่าสุดที่ทยอยออกมาระงับแผนผ่อนคลาย Lockdown ตามกันไป
5️⃣ นายแพทย์ Anthony Fauci ยังคงแสดงความเป็นกังวลอย่างมาก
ดร. แอนโทนี่ เฟาซี (Dr. Fauci) ผู้นำการวิจัยโรคติดเชื้อที่สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) ได้ออกมาย้ำกล่าวเตือนอีกครั้งให้ประชาชนสหรัฐอย่าการ์ดตก เพราะผลกระทบของไวรัสนั้นยังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆถึงแม้ว่าอัตราผู้เสียชีวิตจะน้อยลง ตอนนี้หลายๆโรงพยาบาลในรัฐด้านบนที่กล่าวไว้แทบจะไม่เหลือที่รักษารองรับผุ้ป่วยใหม่แล้ว บางรัฐถึงกับต้องส่งผู้ป่วยไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเด็ก
6️⃣ ทาง CDC ออกมากล่าวเตือนว่า 8% ของประชากรสหรัฐอาจติดเชื้อไวรัสแล้ว !
จริงอยู่ว่ายังต้องมีผู้ติดเชื้ออีกมากมายในสหรัฐที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบเพราะว่าจำนวนเครื่องตรวจนั้นมีจำกัด แต่ทาง CDC หรือหน่วยงานป้องกันโรคติดต่อในสหรัฐอเมริกา ได้ออกมารายงานว่าอาจมีผู้ติดเชื้อในไวรัสโควิดสูงถึงราวๆ 26.4 ล้านคนเลยทีเดียว ! (หรือ 8% จากประชากรสหรัฐทั้งหมด 330 ล้านคน)
สิ่งที่ทุกคนทราบกันดีนั้นก็คือการที่ตลาดหุ้นและสภาพเศรษฐกิจนั้นกำลังเดินไปคนละทาง #ราคาของตลาดหุ้นนั้นไม่ได้สะท้อนกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันซะทีเดียว ข้อนี้เราคงไม่ต้องขยายความกันมากเพราะเงินทุนในตลาดนั้นเยอะและเงินไม่มีที่ๆจะไปเพราะดอกเบี้ยนั้นต่ำติดดินทั่วโลก
แต่ปัจจัยที่ต้องติดตามหลักๆในตลาดตอนนี้ ที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของเงินทุนที่ยังเหลือมากมายในตลาด ว่าจะไหลเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่องหรือจะถอนเงินออกไปเพราะความกลัว ยังมีอยู่ 3 อย่างหลักๆด้วยกันอย่างที่เราได้รายงานมาตลอด
ต่อไปนี้ทางเพจจะมา #ไล่ลำดับของผลกระทบในแต่ละปัจจัยว่าข้อไหนจะมีผลกระทบต่อเงินทุนเหล่านี้มากที่สุด โดยในอาทิตย์นี้ ในเมื่อทางประธานาธิบดีทรัมป์ยังออกมายืนยันว่าจะไม่ปิดเมืองอย่างแน่นอน ทำให้เราได้เลื่อนลำดับปัจจัยนี้ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 1 ครับ
1️⃣ สถานการณ์ไวรัสระบาดในสหรัฐและที่อื่นๆในโลก
2️⃣ การเลือกตั้งในสหรัฐอเมริกา
3️⃣ ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน

สนับสนุนเราโดยเปิดบัญชีเทรด สเปรดต่ำ ฝากถอนไว ได้ที่ 
1. Exness :  https://www.exness.com/a/uh16i33c เทรดได้ทั้ง Crypto ทอง และ Forex

สรุปข่าวเศรษฐกิจคืนนี้ ศุกร์ 26 มิ.ย. ตลาดเตรียมเปิดผสมหุ้นกลุ่มธนาคารอาจมีแรงกดดัน

วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2563

FED หรือ แบงก์ชาติสหรัฐเข้าคุมเงินปันผลของธนาคารพาณิชย์คล้ายๆกับที่ไทยแล้ว

FED หรือ #แบงก์ชาติสหรัฐเข้าคุมเงินปันผลของธนาคารพาณิชย์คล้ายๆกับที่ไทยแล้ว ! โดยกำหนดว่าห้ามจ่ายเงินปันผลเกินระดับที่เคยจ่ายไปแล้วในไตรมาสที่ 2 และงดซื้อหุ้นคืน ! เพื่อพยายามสำรองเงินทุนเพื่อรับปัญหาหนี้เสียในช่วงโควิดเช่นเดียวกัน... แต่สิ่งนึงที่ต่างกับบ้านเราคือ #หุ้นสหรัฐยังบวกเมื่อคืนนี้ 
หลายท่านคงจำเหตุการณ์ใหญ่ที่เกินขึ้นในบ้านเราเมื่อเย็นวันศุกร์ที่แล้วกันได้ หลังทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาขอให้ธนาคารพาณิชย์งดจ่าย #เงินปันผล และ #งดซื้อหุ้นคืน เพราะว่าการแพร่ระบาดของโควิด 19 นั้นยังเป็นสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนสูงมาก จะสงส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจไทย จึงได้ขอความร่วมมือจากธนาคารกลางต่างๆเพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับระบบเศรษฐกิจและระบบการเงินของประเทศหากจะต้องเกิดวิกฤตหนี้เสียขึ้น และ... แน่นอนว่าตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะกลุ่มธนาคารจึงโดนเทขายอย่างหนักหลังได้รับข่าวนี้
เช้านี้ทาง #ธนาคารกลางสหรัฐได้ออกมาประกาศมาตรการที่คล้ายๆกัน ทาง FED ได้ออกมาขอให้ธนาคารพาณิชย์ใหญ่ๆในประเทศไม่ให้จ่ายเพิ่มเงินปันผลเกินระดับที่เคยจ่ายไปแล้วหรือกลับมาซื้อหุ้นคืนในช่วงไตรมาสที่ 3 นี้ ด้วยเหตุผลเดียวกับที่ทางแบงก์ชาติของไทยให้ไว้
โดยทาง FED ได้กล่าวเสริมว่าทางธนาคารกลางสหรัฐได้ทำ Stress Test หรือการทดสอบความสามารถในการรับมือกับวิกฤตหนี้เสียหากเกิดขึ้นจริงของเหล่าธนาคารกลางสหรัฐ และผลที่ออกมานั้นยังค่อนข้างดี และเชื่อมั่นว่าระบบการเงินของสหรัฐจะสามารถผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ แต่การออกมาประกาศมาตรการนี้นั้นทำไปเพื่อเป็นการ #กันไว้ดีกว่าแก้
ในอีกหนึ่งการทดสอบ Sensitivity Analysis หรือการวิเคราะห์ต่อผลกระทบของความเปลี่ยนแปลงซึ่งได้ตั้งสมมุติฐานของการฟื่นตัวของเศรษฐกิจออกเป็น 3 เคส
1️⃣ V Shape - การฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
2️⃣ U Shape - การฟื้นตัวอย่างช้าๆ
3️⃣ W Shape - การฟื้นตัวอย่างเกิดการระบาด Wave 2
ถึงแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะมีความสามารถในการรับมือกับการฟื้นตัวอย่าง V-Shape ซึ่งน่าจะเป็นเคสที่มีโอกาสเกิดขึ้นในปัจจุบันมากที่สุด แต่ผลกระทบของ U และ W-Shape นั้นพบว่าอาจสร้างความกดดันต่อสถาบันการเงินได้เป็นอย่างมาก #การพยายามสำรองเงินทุนไว้ให้มากที่สุด จึงเป็นการเพิ่มความพร้อมในการรับมือกับ 2 เคสหลังนี้
📉 แต่ยังมีสิ่งนึงที่ต่างกันกับประเทศเรา...
ทางหุ้นธนาคารสหรัฐต่างๆยังคงบวกได้เมื่อคืนนี้และดัชนี Dow Jones และ S&P ของสหรัฐก็ยังปิดบวก +1.1% โดยรวมเมื่อคืนนี้ และช่วงเช้าวันนี้ทางดัชนี Futures ของสหรัฐก็ยังไม่มีการโดนเทขาย
สนับสนุนเราโดยเปิดบัญชีเทรด สเปรดต่ำ ฝากถอนไว ได้ที่ 
1. Exness :  https://www.exness.com/a/uh16i33c เทรดได้ทั้ง Crypto ทอง และ Forex

5 ปัจจัยการลงทุนวันนี้ FINNOMENA Daily News Update 26 มิถุนายน 63

1. ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
.
วันนี้สหรัฐฯมีกำหนดการประกาศดัชนีราคาจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (Core PCE) ประจำเดือนพฤษภาคม ซึ่งสะท้อนอัตราเงินเฟ้อที่เป็นปัจจุบัน ถูกคาดการณ์ว่าจะประกาศออกมาที่ 0.2% (MoM) ฟื้นตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ -0.4% (MoM) สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับยอดค้าปลีก (Retail Sales) ที่ประกาศสัปดาห์ก่อนหน้า และ ยอดการใช้จ่ายส่วนบุคคลที่มีกำหนดการประกาศวันนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งถูกคาดว่าจะประกาศออกมาขยายตัว 9.0% (MoM) ฟื้นตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ -13.6% (MoM) จากแนวโน้มความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง
.
2. Fed เดินหน้าสั่งธนาคารพาณิชย์ห้ามซื้อหุ้นคืน จำกัดปันผล แม้ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง
.
วานนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้เปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤติ (Stress Test) ของธนาคารพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่าธนาคารพาณิชย์ยังมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเพียงพอต่อภาวะวิกฤติแม้จะเกิดกรณีเลวร้ายขึ้น (Worst Case Scenario) อย่างไรก็ตามในภาวะดังกล่าวอาจส่งผลให้สัดส่วนทุนสำรองของธนาคารเหล่านั้น ลดลงมาสู่ที่ระดับ 7.7 - 9.5% ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงขั้นต่ำเท่านั้น
.
Fed จึงสั่งให้ธนาคารพาณิชย์งดการซื้อหุ้นคืน และ จำกัดการจ่ายเงินปันผลในไตรมาส 3/20 นี้ ให้ไม่เกินค่าเฉลี่ยของกำไร 4 ไตรมาสที่ผ่านมาเท่านั้น ก่อนที่ Fed จะดำเนินการทำ Stress Test อีกครั้งในไตรมาส 4/20
.
ท่ามกลางการคัดของ Lael Brainard 1 ในคณะกรรมการนโยบายการเงินซึ่งมีอำนาจออกคะแนนเสียง ที่ระบุว่าการอนุญาตให้จ่ายปันผล อาจส่งผลต่อทุนสำรองของธนาคาร ซึ่งอาจส่งผลต่ออันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารต่อไป


3. ปธน.เม็กซิโกเตรียมเดินทางไปสหรัฐฯ ปิดดีล USMCA
.
วานนี้นายแอนเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ประธานาธิบดีเม็กซิโก ให้สัมภาษณ์ระบุว่ากำลังเตรียมการเดินทางไปยังสหรัฐฯ โดยสายการบินพาณิชย์ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำระหว่างเม็กซิโก และ สหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดการจะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อเริ่มต้นการบังคับใช้ข้อตกลงการค้า USMCA อย่างเป็นทางการ หลังจากการเจรจาลุล่วง ในช่วงปี 2018 ที่ผ่านมา


4. GDP Q1/20 สหรัฐฯ -5.0% ตามคาด
.
วานนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลข GDP ประจำไตรมาสที่ 1/20 ครั้งที่ 3 ออกมาที่ -5.0% ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และการประกาศครั้งก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับการหดตัวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/ 08 จากมาตรการปิดเมืองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในช่วงปลายไตรมาสที่ 1
.
ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า GDP ไตรมาสที่ 2/20 จะประกาศออกมาที่ -30% ก่อนที่จะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งในไตรมาสที่ 3 และ 4 หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 มีทิศทางที่ดีขึ้น
.
5. สหรัฐฯ เตรียมหนุนกลุ่มผู้ผลิตชิปกลับมาเป็นผู้นำโลก
.
สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยว่าวุฒิสภา เตรียมเดินหน้าเสนอให้รัฐสภาอนุมัติวงเงินกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจกลุ่ม Semiconductor ภายในประเทศผ่านทางการให้งบประมาณวิจัยและพัฒนา รวมไปถึงการให้โครงการของรัฐสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาดังกล่าวได้มากขึ้น เพื่อให้มั่นใจได้ว่ากลุ่มธุรกิจดังกล่าวจะสามารถตอบโจทย์ของ Supply Chain สมัยใหม่ที่กลุ่มเทคโนโลยีเป็นผู้นำซึ่งทำให้ชิปเป็นส่วนสำคัญที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง
.
ภาวะตลาดวานนี้
.
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นแม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาไม่ค่อยดีก็ตาม โดยมีแรงเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารจากแรงหนุนที่คณะกรรมการประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐได้ผ่อนคลายข้อกำหนด Volcker Rule ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับธนาคารสามารถลงทุนเพิ่มเติมได้ โดย หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่ง 4.6% และ หุ้นเจพีมอร์แกน พุ่ง 3.5% เป็นต้น สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดี รวมทั้ง ECB มีแผนจะปล่อยกู้ให้กับประเทศต่างๆ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในตลาดให้ดีขึ้น
.
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากตัวเลขการสั่งซื้อสินค้าคงทนออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แสดงถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งผลดีต่อด้านอุปสงค์น้ำมัน ด้านสัญญาทองคำปรับตัวลงจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ รวมไปถึงตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านมา ส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยออกมาจากปัจจัยดังกล่าว
Source : Infoquest, Bloomberg, Investing, CNBC, Reuter

สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 มิ.ย. 2563

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเกือบ 300 จุดเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนรุกซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศผ่อนคลายข้อกำหนดการลงทุนสำหรับภาคธนาคาร ขณะที่นักลงทุนจับตาธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตรียมเปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ของธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,745.60 จุด เพิ่มขึ้น 299.66 จุด หรือ +1.18% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,083.76 จุด เพิ่มขึ้น 33.43 จุด หรือ +1.10% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,017.00 จุด เพิ่มขึ้น 107.84 จุด หรือ +1.09%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส และจากมาตรการสนับสนุนของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในการปล่อยกู้เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดระดมทุน
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.72% ปิดที่ 359.74 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,918.58 จุด เพิ่มขึ้น 47.23 จุด หรือ +0.97%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,177.87 จุด เพิ่มขึ้น 83.93 จุด หรือ +0.69% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,147.14 จุด เพิ่มขึ้น 23.45 จุด หรือ +0.38%
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) ตามทิศทางตลาดหุ้นยุโรปอื่นๆ ซึ่งได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเสนอเงินกู้สกุลเงินยูโรให้กับธนาคารกลางต่างๆ นอกเขตยูโรโซน เพื่อสนับสนุนตลาดระดมทุนท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,147.14 จุด เพิ่มขึ้น 23.45 จุด หรือ +0.38%
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทำเนียบขาวกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐจะไม่ล็อกดาวน์ประเทศรอบใหม่ แม้ยอดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในหลายรัฐเพิ่มขึ้นก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 38.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 41.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของสกุลเงินดอลลาร์ยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดทองคำ อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากข้อมูลแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งยังคงเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 4.5 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 1770.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 22.5 เซนต์ หรือ 1.27% ปิดที่ 17.895 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.9 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 802.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 43.40 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 1,845.10 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ และสหภาพยุโรป (EU)
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.29% สู่ระดับ 97.4380 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.20 เยน จากระดับ 106.94 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9489 ฟรังก์ จากระดับ 0.9478 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3649 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3611 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1215 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1258 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2405 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2423 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6871 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6867 ดอลลาร์
--อินโฟเควสท์  + Jamesbond
Investing.com 
สนับสนุนเราโดยเปิดบัญชีเทรด สเปรดต่ำ ฝากถอนไว ได้ที่ 
1. Exness :  https://www.exness.com/a/uh16i33c เทรดได้ทั้ง Crypto ทอง และ Forex

26 มิ.ย. สรุปข่าวเศรษฐกิจเช้านี้ โควิดในสหรัฐยังระบาดอย่างหนัก

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2563

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ มีความเสี่ยงที่จะร่วงลงอย่างรวดเร็ว

สตีเฟ่น โรช นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากมหาวิทยาลัยเยลและเคยนั่งตำแหน่งบอร์ดบริหารระดับสูงของธนาคารสำหรับการลงทุนชื่อดังอย่างมอร์แกน สแตนลีย์เผยว่า “ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอาจร่วงลงอย่างรวดเร็วชนิดที่นักลงทุนตั้งตัวไม่ทันเลยทีเดียว ผมมองว่าการเกิดวิกฤตโควิด-19 คือตัวเร่งที่ทำให้สกุลเงินดอลลาร์เสื่อมมูลค่าเร็วขึ้นซึ่งเราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไร้ขีดจำกัดของธนาคารกลางสหรัฐฯ เร็วๆ นี้อาจจะได้เห็นดัชนีร่วงลง 35%”
การวิเคราะห์ของนักเศรษฐศาสตร์ท่านนี้เห็นไปในทิศทางเดียวกันกับการวิเคราะห์แนวโน้มของดัชนีดอลลาร์สหรัฐที่เราเคยเขียนไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่บทความได้เผยแพร่ออกไป ดัชนีดอลลาร์สหรัฐสามารถปรับตัวขึ้นได้ 4 แท่งติดต่อกันแต่เป็นขาขึ้นที่อยู่ในกรอบราคาแคบๆ
แต่แท่งเทียนขาลงที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์แท่งเดียวลบความพยายามของตลาดกระทิงตลอด 3 วันก่อนหน้าหมดสิ้น แม้จะมีความพยายามของตลาดกระทิงที่อยากจะดึงดัชนีให้ปรับตัวกลับขึ้นไปแต่เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่เกิดขึ้นเรามองว่าพฤติกรรมของดัชนีดอลลาร์สหรัฐตอนนี้เข้าข้างตลาดหมีมากกว่า
ราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐสร้างรูปแบบธงลู่ขึ้นเสร็จเรียบร้อยแล้วโดยมีแท่งเทียนขาลงเมื่อวันจันทร์เป็นแท่งเทียนยืนยันซึ่งหมายความว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้กำลังจะกลายเป็นการยืนยันขาลงต่อเนื่องที่เกิดจากการหลุดกรอบสามเหลี่ยมสมมาตรที่สร้างขึ้นในช่วงมีนาคมและเมษายน
ตั้งแต่แรกขาขึ้นที่เกิดในกรอบราคาแคบๆ ก็เป็นสัญญาณบอกเป็นนัยอยู่แล้วว่าขาขึ้นรอบนี้ไม่ใช่ขาขึ้นปกติ ใครจะรู้ว่าการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันระหว่างแรงซื้อและแรงขายครั้งนี้ที่จริงแล้วเป็นฝั่งขายเองหรือเปล่าที่ปลอมตัวมาเป็นฝั่งขาขึ้นพยายามดันกราฟให้ขึ้นมาเพื่อที่ตัวเองจะได้เทขายต่อในแนวโน้มระยะยาว
ขาลง 4% ภายในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์ก่อนเข้าสู่กรอบสามเหลี่ยมสมมาตรถือว่าเป็นอะไรที่ล่อตาล่อใจนักลงทุนมาก แต่มันก็ทำให้พวกเขาอดคิดไม่ได้ว่าขาลงที่เกิดขึ้นนี้มาเร็วเกินไปหรือเปล่า ดูเหมือนว่าเรารีบเร่งทำกำไรเกินไปหรือไม่ ดังนั้นสิ่งที่พวกฝั่งขายทำคือลองปล่อยคำสั่งขายเพื่อปล่อยให้ขาขึ้นสามารถกลับมาแล้วรอดูว่าขาขึ้นยังมีกำลังแรงดีอยู่หรือไม่
และวินาทีที่ขาลงขอกลับเข้ามาทำตามความต้องการเดิมก็เกิดขึ้น เห็นได้ชัดเลยว่าขาลงจากแท่งเทียนเพียงแท่งเดียวมีกำลังมหาศาลกว่าขาขึ้นมากเพียงใด เพื่อไม่ให้เสียเปรียบขาขึ้นพวกฝั่งขายจึงกดราคาอย่างหนัก พลักราคาให้ตกลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งให้ฝ่ายตลาดกระทิงได้เห็นตลาดหมีส่งสัญญาณยืนยันการหวนคืนด้วยการทะลุกรอบแนวรับลงมา
ยิ่งไปดูที่อินดิเคเตอร์ยิ่งเห็นว่าขาลงมีความชัดเจนขนาดไหน เส้นค่าเฉลี่ย 50 DMA ตอนนี้สามารถทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 100 DMA ลงมาได้แล้วซึ่งการตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยทั้งสองเกิดขึ้นในช่วงที่กราฟกำลังทำรูปแบบธงลู่ขึ้นด้วย หากว่าขาลงที่มีความรุนแรงอย่างมีนัยสำคัญเกิดขึ้นอีกครั้งจะสามารถทำให้เส้นค่าเฉลี่ย 50 DMA ตัดเส้น 200 DMA ลงไปได้เลย
อินดิเคเตอร์อย่าง RSI ก็แสดงสัญญาณขาลงเช่นกัน ตั้งแต่ก่อนที่ราคาจะทะลุธงลู่ขึ้นลงมาเส้นค่าเฉลี่ยในอินดิเคเตอร์ RSI ก็ขึ้นไปทดสอบเส้นเทรนด์ไลน์ด้านบนที่เป็นของกรอบราคาขาลงเรียบร้อย สร้างเป็นไดเวอร์เจนต์ระหว่างตัวดัชนีดอลลาร์สหรัฐกับอินดิเคเตอร์เอง นอกจากนี้เส้นประสีแดงใน RSI ยังแสดงให้เห็นด้วยว่านี่คือบริเวณที่มีแนวต้านสำคัญ 2 แนวกำลังรอราคาอยู่ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ขาขึ้นจะสามารถผ่านขึ้นไปได้
Investing.com 
สนับสนุนเราโดยเปิดบัญชีเทรด สเปรดต่ำ ฝากถอนไว ได้ที่ 
1. Exness :  https://www.exness.com/a/uh16i33c เทรดได้ทั้ง Crypto ทอง และ Forex

วิเคราะห์กราฟเทคนิค ทองคำ XAUUSD 25 มิ.ย.


ทองคำ XAUUSD  ขึ้นไปทำนิวไฮ ที่ บริเวณ 1778.5 เมื่อวานนี้ ก่อนปรับฐานลงมาที่แนวรับบริเวณ 1760  จากแนวโน้มกรอบขาขึ้น คาดว่าสามารถขึ้นไปทำนิวไฮอีกครั้งบริเวณ 1780 -  1800 ก่อนลงมาที่แนวรับบริเวณ 1735  แนะนำ รอ Sell ที่ 1780-1790  หรือ buy ก่อนที่บริเวณ1764 โดยตั้ง SL 1750-1755 TP 1790

James Bond

สนับสนุนเราโดยเปิดบัญชีเทรด สเปรดต่ำ ฝากถอนไว ได้ที่ 
1. Exness :  https://www.exness.com/a/uh16i33c เทรดได้ทั้ง Crypto ทอง และ Forex


EURUSD 25 Jun Chart Technical Analysis วิเคราะห์กราฟทางเทคนิค



      EURUSD  ราคาได้ปรับลงมาเป็นวันที่สองติดต่อกัน หลังจากข่าวความกังวลเรื่องการระบาดรอบสองของโควิดที่อเมริกา  การประกาศปรับลดคาดการณ์ GDP โลก ของ IMF และความตึงเครียดด้านกำแพงภาษีระหว่างอเมริกาและยุโรป   ปัจจุบันราคาได้ลงมาบริเวณแนวรับ 1.2220  มีโอกสปรับขึ้น ไปที่แนวต้าน 1.1350  หรือ หากทะลุแนวรับนี้ลงไปจะเจอกับแนวรับถัดไปที่ 1.1170 และคาดว่าจะสามารถเด้งกลับขึ้นมาอีกได้
      แนะนำ Buy 1.122x SL 1.1150 TP 1.1350  หรือหาก  buy 1.118x SL 1.1150 TP 1.1350

James Bond

สนับสนุนเราโดยเปิดบัญชีเทรด สเปรดต่ำ ฝากถอนไว ได้ที่ 
1. Exness :  https://www.exness.com/a/uh16i33c เทรดได้ทั้ง Crypto ทอง และ Forex

GBPUSD Thu 25 Jun


GBPUSD 4H เมื่อคืนนี้ ราคาได้ร่วงลงมาถึงเหนือแนวรับที่โซน 1.241x  เนื่องจากถูกกดดันจากค่าเงิน USD ที่แข็งค่าขึ้น จากข่าวปัญหาระหว่างอเมริกากับยุโรป นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเรื่องการระบาดจำนวนมากของโควิด 19 ที่อเมริกา ทีี่ยังมียอดผู้ติดเชื้อสูงกว่า 3 หมื่นคนต่อวัน
อย่างไรก็ตาม ทางเทคนิค ราคาได้ทำรูปแบบแท่งเทียน Hammer กลับหัวและมีอท่งเทียนขาขึ้นตามมา คาดว่าราคาสามารถปรับฐานไปทางขึ้นได้ครับ แนะนำ Buy บริเวณแนวรับนี้ และ SL ใต้แนวรับ
แนวรับหลักถัดไปคือ บริเวณ Low เดิม ที่ 1.233x แนวต้านหลัก 1.253x

สนับสนุนเราโดยเปิดบัญชีเทรด สเปรดต่ำ ฝากถอนไว ได้ที่ 
1. Exness :  https://www.exness.com/a/uh16i33c เทรดได้ทั้ง Crypto ทอง และ Forex

25 มิ.ย. ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ $6.9 เหตุเงินดอลล์แข็งกดดันตลาด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 มิ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำปรับตัวลงไม่มากนัก เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ร่วงลงอย่างหนักได้กระตุ้นให้นักลงทุนส่วนหนึ่งยังคงเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 6.9 ดอลลาร์ หรือ 0.39% ปิดที่ 1,775.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 39.3 เซนต์ หรือ 2.18% ปิดที่ 17.67 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 41.8 ดอลลาร์ หรือ 4.94% ปิดที่ 804.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ดิ่งลง 62.60 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 1,888.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.51% สู่ระดับ 97.1528 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้น และมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
อย่างไรก็ดี นักลงทุนส่วนหนึ่งยังคงเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐอาจทำให้รัฐบาลตัดสินใจใช้มาตรการล็อกดาวน์ประเทศอีกครั้ง ซึ่งจะสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อเศรษฐกิจในประเทศ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยังถูกกดดันจากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกทั้งในปีนี้และปีหน้า
Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 2,424,493 ราย และมีผู้เสียชีวิต 123,476 ราย โดยขณะนี้สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัวลง 4.9% ในปีนี้ ซึ่งย่ำแย่กว่าที่คาดการณ์ในเดือนเม.ย.ว่าจะหดตัวลง 3% นอกจากนี้ IMF ยังได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้าสู่ระดับ 5.4% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ในเดือนเม.ย.ว่าจะขยายตัว 5.8%
ที่มา : อินโฟเควสท์

25 มิ.ย. SET เปิดลบ -15 จุดเช้านี้ โดนแรงเทขายไปพร้อมกับตลาดหุ้นเอเชียทั้งหมด จากผลกระทบของตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้

⚠️ 🇹🇭 #SET เปิดลบ -15 จุดเช้านี้ ลงมาอยู่ที่ 1,317 จุด โดนแรงเทขายไปพร้อมกับตลาดหุ้นเอเชียทั้งหมด จากผลกระทบของตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้
📉 อัพเดทความเคลื่อนไหวของตลาดโลกเช้านี้ 🌍
🇹🇭 ดัชนีไทย SET -1.1%
🇰🇷 ดัชนีเกาหลี KOSPI 200 -2.6%
🇭🇰 ดัชนีฮ่องกง Hang Seng -1.9%
🇯🇵 ดัชนีญี่ปุ่น Nikkei -0.5%
🇨🇳 ดัชนีจีน China A50 -0.7%
และ 🇺🇸 ดัชนี Dow Jones Futures ที่ปิดลบไปกว่า -3% เมื่อคืนนี้ยังคงเทรดที่ -0.75% เช้านี้ลงมาอยุ่ที่ 25,220 จุด โดนแรงกดดันเทขายอย่างต่อเนื่อง
จาก 3 ปัจจัยหลักๆนี้
1️⃣ ความเสี่ยงของการระบาดไวรัสที่กระจายมากขึ้นในสหรัฐ #ที่อาจทำให้รัฐยาลต้องกลับมาปิดเมืองใหม่อีกครั้ง ??
ตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดยังสูงกว่า 30,000 รายต่อวันและทำให้เลขรวมขึ้นมาอยู่ที่ 2.34 ล้านรายทั่วประเทศ โดยเฉพาะในรัฐ Florida, Texas, Californis, Arizona ที่กำลังเจอการระบาดแบบก้าวกระโดด โดยคืนนี้ตัวเลข Florica รายงานออกมาว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 5,508 รายในวันเดียว ! ทำให้ผู้ติดเชื้อในรัฐนี้ดีดสูงขึ้นเกินแสนรายแล้ว ทางรัฐ Texas ก็มีผู้ติดเชื้อกระโดดเกือบ 5% ในวันเดียว
ตัวเลขผู้เสียชีวิตในสหรัฐรวมตอนนี้อยู่ที่ 1.2 แสนคน แต่มีรายงานออกมาว่าหากไม่กลับไปปิดเมืองอีกครั้งจำนวนผู้เสียชีวิตจะสูงถึง 2 แสนรายภายในสิ้นปีนี้ ความกังวลของเรื่องไวรัสระบาดในสหรัฐยังสูงขึ้นหลัง Dr.Fauci นั้นกล่าวว่าเขาเริ่มไม่สบายใจกับตัวเลขใหม่ที่พุ่งสูงขึ้นและคงต้องเรียกประชุมกับทางทรัมป์หลังจากไม่ได้คุยกันมาเป็นเวลา 2 อาทิตย์แล้ว
2️⃣ IMF ปรับลดคาดการณ์ GDP โลกของทั้งปีนี้และปีหน้าลง
กองทุนการเงินระหว่างประเทศมองว่าผลกระทบของไวรัสโควิดต่อโลกเรานั้นจะยืดเยื้อนานกว่าที่คาดไว้เมื่อ 2 เดือนก่อน เพราะว่าจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจจากประเทศต่างๆที่ได้รับเข้ามาตลอดเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนนั้นแย่กว่าที่คาดการไว้
โดยทาง IMF ได้ออกมายอมรับว่าตลาดหุ้นในปัจจุบันนั้นไม่ได้สะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจที่แท้จริงเลยและปรับลดคาดการณ์ GDP โลกปีนี้คาดว่าจะติดลบ -4.9% จากที่เคยมองไว้ที่ -3.0% และปีหน้าจากที่มองว่าจะดีดตัวปรับขึ้นมาโตที่ +5.8% กลับหั่นลงมาเหลือ +5.4%
รายละเอียดของการปรับลดคาดการณ์ GDP ของแต่ละประเทศ (ดูรวมได้ในกราฟตรงคอมเม้นท์)
🇺🇸 สหรัฐ ปรับลงเหลือ -8% จากเดิม -5.9%
🇪🇺 ยุโรป ปรับลงเหลือ -10.2% จากเดิม -7.5%
🇨🇳 จีน ปรับลงเหลือ +1.0% จากเดิม +1.2%
3️⃣ สหรัฐอาจขึ้นภาษีการค้ารอบใหม่กับทางยุโรป
รัฐบาลสหรัฐกำลังชั่งน้ำหนักว่าควรจะขึ้นภาษีศุลกากรใหม่สำหรับการส่งออกสินค้าจากฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน และ สหราชอาณาจักร มูลค่ารวมกว่า 3.1 พันล้านเหรียญ โดยจะเป็นสินค้าในประเภท รถบรรทุก เครื่องบิน มะกอก เบียร์ จิน ชีส และ โยเกิร์ต
ทังหมดนี้เพราะทางรัฐบาลทรัมป์ต้องการตอบโต้การที่ทางยุโรปอาจมีการช่วยบริษัท Airbus อย่างผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นคู่แข่งของทางบริษัทประกอบเครื่องบิน Boing ของสหรัฐ

สนับสนุนเราโดยเปิดบัญชีเทรด สเปรดต่ำ ฝากถอนไว ได้ที่ 
1. Exness :  https://www.exness.com/a/uh16i33c เทรดได้ทั้ง Crypto ทอง และ Forex